“สนธิรัตน์” คาดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่จบง่าย ส่งผลราคาน้ำมันไทยขึ้นลงเป็นรถไฟเหาะ ไทยเข้าโหมดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยปลายปีนี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เรื่อง ราคาน้ำมัน สัปดาห์นี้นี่ขึ้นลงเหมือนขึ้นรถไฟเหาะ โดยระบุว่า
ในต้นเดือนปรับเปลี่ยนขึ้นลงไปแล้วมากกว่า 3 ครั้ง ทำเอานักวิเคราะห์คาดเดากันแทบไม่ทัน
ที่น่าสนใจราคาตลาดน้ำมันในช่วง 2 – 3 วันมานี้ ลดลงและต่ำสุดในรอบ 12 สัปดาห์ อยู่ที่ 98.53 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ลบ 1%
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 100.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ลบ 2% น้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 101.52 ลบ 9% (6 ก.ค. 65)
เราจึงเห็นราคาน้ำมันดิบปรับลด 3 บาทและ1.50 บาท สำหรับแก๊สโซฮอลล์ในสองสามวันที่ผ่านมา
ขณะที่อีกวัน (7 ก.ค. 2565) ราคากลับดีดตัวขึ้นมาอีกหลังจากท่อส่งน้ำมัน Caspian Pipeline Consortium (CPC) ถูกระงับลง 30 วัน ส่งผลให้ตลาดกังวลเรื่องอุปทานที่จะตึงตัวหลังจากนี้
ผลดังกล่าวทำตลาดน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 3-4% ภายในวันเดียว!!!
ความกังวลเหล่านี้ จะมีอยู่อย่างต่อเนื่องแน่นอนครับ ปัจจัยเสริมที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างความขัดแย้ง รัสเซีย ยูเครน ที่คาดว่าจะยังไม่จบง่าย ๆ รวมถึงสถานการณ์ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ อย่าง รัสเซียและอิหร่าน
ความไม่แน่นอนในเรื่องราคาน้ำมัน ยังคาดเดาได้ยาก ต้องพร้อมตั้งรับกันครับ
ความกังวลหลักตอนนี้ และคาดว่าจะส่งผลกระทบถึงปลายปีนี้ คือ สภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) หลัง ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายกว่า 0.75% เพื่อมุ่งลดภาวะเงินเฟ้อจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น และคาดว่า หลาย ๆประเทศ คงใช้วิธีทำนองเดียวกันในการสกัดปัญหานี้
ความถดถอยที่ว่า เป็นสภาวะที่เศรษฐกิจโตช้า กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลงเช่น มีการจับใช้จ่ายสอยน้อยลงเพราะของแพง การเดินทางน้อยลงเพราะออกจากบ้าน 1 ครั้ง ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ กระทบไปถึงภาคผลิต ของแพงก็ขายได้น้อย ต้องลดต้นทุนลงสินค้าบางอย่าง กำไรที่มีน้อยการจ้างงานก็ลดลง คนว่างงานก็เพิ่มขึ้น เหล่านี้คือสิ่งที่เรียกว่า สภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ เพิ่งประกาศออกมาว่า เงินเฟ้อบ้านเรา สูงถึง 7.66% ถ้าเทียบจากปีก่อนหน้า นั่นหมายความว่า ปีที่แล้วกับปีนี้ พี่น้องประชาชนจับจ่ายของที่แพงขึ้นเป็นเท่าตัวจากเลยครับ จาก 99.93% เป็น 107.58% ในปีนี้ โดยสำหรับหมวดสินค้าที่ดันให้ราคาข้าวของแพงขึ้น แน่นอนครับว่า เป็นสินค้าในกลุ่มพลังงานและอาหาร
จากสถานการณ์ทั้งหมดคงเป็นครึ่งปีหลังของความไม่แน่นอนของการค้าขายทำมาหาเลี้ยงชีพ สภาวะข้าวของแพง แรงกดดันจากหนี้สิน แนวทางแก้เศรษฐกิจที่แม่นยำและทันสถานการณ์บนงบประมาณที่จำกัดของรัฐบาลคือความท้าทายบนความทุกข์ของประชาชนครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ราคาน้ำมัน WTI’ ปิดพุ่ง 2.06 ดอลลาร์ ‘จัดหาภาวะตึงตัว-ตัวเลขจ้างงานแกร่ง’ หนุนตลาด
- ราคาน้ำมันวันนี้ 9 ก.ค. อัพเดทราคาน้ำมัน ‘เบนซิน-ดีเซล-โซฮอล์’ จาก 4 ปั๊มใหญ่ที่นี่!
- ‘มอร์แกน สแตนลีย์’ ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ เสี่ยงถดถอย 50% แต่มั่นใจ ‘เฟด’ คุมเงินเฟ้อได้