iPrice Group ประกาศลดพนักงาน 20% ในส่วนการสร้างแอปพลิเคชั่น พร้อมกลับไปพัฒนาเว็บไซต์ดังเดิม ย้ำจุดแข็งตัวช่วยนักช้อป เปรียบเทียบราคา
นายเดวิด ชามีลาร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง iPrice Group แพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ชั้นนำ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา iPrice Group ได้ขยายธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ White Label รวมไปถึงการเป็นผู้ให้บริการแบบ BNPL อย่างเต็มรูปแบบ
การขยายธุรกิจล่าสุดคือ การนำข้อมูลจากผู้ใช้กว่า 100 ล้านคนที่เข้าชมเว็บไซต์ iPrice ทุกปี มาสร้างแอพพลิเคชั่นให้ผู้ใช้งานเปรียบเทียบราคาง่ายยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า บริการใหม่เหล่านี้ จะถูกใจนักช้อปออนไลน์ แต่ต้องนำมาซึ่งการลงทุนเพิ่ม บวกกับการคืนทุนระยะยาวในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ดังนั้นบรbษัทจึงตัดสินใจ มุ่งเน้นบริการหลัก คือ การช่วยนักช้อปออนไลน์ประหยัดให้ได้มากที่สุด ที่เป็นสิ่งสำคัญต่อบริษัทมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจปรับโครงสร้างใหม้ ด้วยการลดพนักงาน 20% โดยส่วนใหญ่ทำงานในส่วนของการสร้างแอปพลิเคชั่น และก่อนหน้านี้ 3 เดือนบริษัทเพิ่งประกาศรับเงินระดมทุนล่าสุดกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากกลุ่มบริษัท Japanese Conglomerates Itochu Corporation และ KDDI Corporation
การปรับโครงสร้างดังกล่าว ยังเป็นผลมาจากพฤติกรรมของนักช้อป ที่พบว่า 2 ใน 3 ของนักช้อปออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้จ่ายเฉลี่ยเกิน 10% จากการซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งบริษัทมีจุดแข็งด้านการเปรียบเทียบราคา โปรโมชั่น และส่วนลดสินค้าจากผู้ขายมากกว่า 7.5 พันล้านรายการ จึงต้องการย้ำจุดแข็งดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
ด้าน พอล บราวน์-เคนยอน ซีอีโอของ iPrice Group กล่าวว่า ทีมงานของ iPrice ถือเป็นชุมชนที่แน่นแฟ้น ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากมากในการลดพนักงาน เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริหารหลัก
สำหรับขั้นตอนการชดเชยรายได้แก่พนักงานที่ถูกเลิกจ้าง บริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญา และรวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบัน iPrice Group มีผู้ใช้บริการมากกว่า 125 ล้านคน ใน 7 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และฮ่องกง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คู่มือช้อปของถูก รับเทศกาล ‘11.11’ iPrice ชี้เป้า 3 ค่ายกระหน่ำเซล
- ซื้อของไม่ได้ของ!! ปัญหายืนหนึ่งนักช้อปออนไลน์ โดนบล็อก ปิดเพจหนี แจ้ง 1212
- เช็คที่นี่! 5 ขั้นตอน ยื่นฟ้องด้วยตัวเอง ช้อปปิ้งออนไลน์แล้ว ‘ถูกโกง’