สภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย จัด Business Forum เร่ง ‘ฟื้นเศรษฐกิจการลงทุน’ 2 ประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือด้าน Transport & Mobility BCG Decarbonization และ Smart City
วันนี้ (30 มิ.ย. 65) ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก สภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย (France – Thailand Business Forum หรือ FTBF) ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และสมาพันธ์นายจ้างแห่งฝรั่งเศส (MEDEF International) ได้จัดงานประชุมสภา France – Thailand Business Forum ครั้งที่ 3
พร้อมจัดเสวนาพิเศษใน 2 หัวข้อ คือ Transport & Mobility และ BCG, Decarbonization และ Smart City โดยมีผู้นำภาครัฐ และนักธุรกิจชั้นนำของสาธารณรัฐฝรั่งเศสและประเทศไทยและในอุตสาหกรรมนี้เข้าร่วมในการประชุม
ร่วมมือตามแผนแม่บท France-Thailand Roadmap 2022-2024
สภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย เป็นกลไกในการผลักดันความร่วมมือ และโอกาสการลงทุนของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งสอดรับกับกรอบความร่วมมือของภาครัฐ ได้แก่ แผนแม่บท France-Thailand Roadmap 2022-2024 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือน เมษายน 2565
นอกจากนี้ ยังเป็นการต่อยอดความร่วมมือจากปฏิญญาแสดงเจตจำนง (Declaration of Intent) ระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเปลี่ยนผ่านทางนิเวศวิทยา กำกับดูแลการคมนาคม แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประเทศไทย ซึ่งได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือน ธันวาคม 2564
เล็งเห็นศักยภาพของเอกชนไทย
นายฟรองซัวส์ กอร์แบง ประธานร่วมสภาธุรกิจ ฝ่ายฝรั่งเศส รองประธานสมาพันธ์นายจ้างแห่งฝรั่งเศส (MEDEF International) กล่าวว่า บริษัทฝรั่งเศสมีจุดแข็งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โดดเด่น ได้เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ประกอบกับศักยภาพของเอกชนไทย และการผลักดันจากภาครัฐ ผ่านกรอบนโยบายต่างๆ มีความเชื่อมั่นว่า เอกชนฝรั่งเศสยินดีจะร่วมมือกับเอกชนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้
โดยในครั้งนี้มีนักธุรกิจฝรั่งเศสจากบริษัทชั้นนำกว่า 20 บริษัทเข้าร่วม จากอุตสาหกรรมพลังงาน สิ่งแวดล้อม คมนาคมและระบบขนส่ง โครงสร้างสาธาณูปโภคพื้นฐาน ระบบเมืองอัจฉริยะและยั่งยืน เป็นต้น โดยงานประชุมในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน ส่งเสริม และการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการต่อยอด และเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ร่วมมือ แลกเปลี่ยน องค์ความรู้ นวัตกรรม อุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 สาขา
ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานร่วมสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย ฝ่ายไทย และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า สภาฯ เป็นเวทีส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุน ในระดับเอกชนระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีการส่งเสริมการลงทุนและการแสวงหาโอกาส ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีจากฝรั่งเศส
โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 สาขา ได้แก่ Transport, Smart City, Energy Transition, Food & Agri และ Health & Wellness โดยมีหน่วยงานคู่ความร่วมมือ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) เป็นต้น
ขณะเดียวกัน มีทั้งบริษัทสมาชิกของไทยที่มีการลงทุนในฝรั่งเศสแล้ว เช่น GC, Thai Union, Sea Value, Double A และบริษัทที่มีความร่วมมือแล้วและแสวงหาความร่วมมือกับฝรั่งเศส เช่น Mitr Phol Group, Loxley, ThaiBev, WHA Group, Kasikorn, Thai Airways, CP, Empire Asia, Allied Metals รวมถึงบริษัทฝรั่งเศสที่ลงทุนในประเทศ เช่น Michelin อีกด้วย
ฟื้นเศรษฐกิจการลงทุน 2 ประเทศ หลังโควิด เน้นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
ด้วยภาวะปัจจุบัน จุดเปลี่ยนผ่านสำคัญของหลายอุตสาหกรรม คือการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภาคเอกชนทั้งไทยและฝรั่งเศสได้เล็งเห็นโอกาสร่วมกัน ในความร่วมมือ 2 สาขา คือ Transport & Mobility และ BCG ซึ่งรวมถึง Decarbonization และ Smart City ด้วย
การประชุม FTBF ครั้งที่ 3 ในปีนี้ จะช่วยเร่งฟื้นเศรษฐกิจการลงทุนของทั้งสองประเทศ หลังจากผ่านการแพร่ระบาดของโควิด โดยในส่วนของฝรั่งเศส เลือกที่จะมาประเทศไทยเป็นประเทศแรก เพราะเห็นศักยภาพของประเทศไทย ขณะที่ไทยก็นอกจากภาคเอกชน ก็จะมีภาครัฐ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ BOI กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ มาร่วมรับฟังและให้ข้อเสนอแนะ เพื่อให้ความร่วมมือ เร่งฟื้นเศรษฐกิจการลงทุนของทั้งสองประเทศ ขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว
เอกชนไทยมองว่า ภาคอุตสาหกรรมของไทยมีความพร้อมด้วยทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งไทยแสวงหาโอกาสในการเข้าถึงนวัตกรรม องค์ความรู้ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมในฝรั่งเศสมีศักยภาพที่สอดรับ และสนับสนุนการยกระดับขีดความสามารถ อีกทั้งยังต่อยอดมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาคอุตสาหกรรมของไทยได้
ประเทศไทยกับสาธารณรัฐฝรั่งเศส มีความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ามาอย่างยาวนาน โดยฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าลำดับที่ 25 ของไทย เป็นลำดับที่ 3 ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) มีมูลค่าการค้า จำนวน 4,322.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก เป็น Key Player ในยุโรปและของโลก
นอกจากนี้ ยังเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ของอาเซียนในปี 2563 อุตสาหกรรมหลักประกอบด้วย เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ โทรคมนาคม การบิน และเวชภัณฑ์
ที่ผ่านมา ในปี 2564 บริษัทฝรั่งเศสขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทย (BOI) จำนวน 15 โครงการคิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 2,327.60 ล้านบาท
ปัจจุบันมีบริษัทฝรั่งเศสในไทยประมาณ 280 บริษัท มีบริษัทขนาดใหญ่ของไทย 6 บริษัทที่ลงทุนอยู่ในฝรั่งเศส ได้แก่ GC, Double A, Thai Union Frozen, Sea Value, Jinpao Precision Industry และ Indorama
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘GC’ กำหนดดอกเบี้ย 3.5% หุ้นกู้อายุ 7 ปี จองซื้อ 22-29 มิ.ย.นี้ ให้สิทธิ ‘ผู้สูงวัย’ ก่อน
- ‘GC’ ขายหุ้นกู้ 22-29 มิ.ย.นี้ ให้สิทธิ ‘กลุ่มสูงวัย’ จองก่อน เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งเงินทุน
- ‘GC’ สุดแกร่ง ยอดจองหุ้นกู้ USD Bond พุ่ง 7 เท่า สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน