Business

ข่าวดี ‘เม็ดพลาสติกไทย’ ฟิลิปปินส์เลิกไต่สวนเซฟการ์ด คาดส่งออกฉลุย

“พาณิชย์” บอกข่าวดี ฟิลิปปินส์ยุติไต่สวนเซฟการ์ด สินค้าเม็ดพลาสติกไทย ยุติปัญหาเรื้อรังนานนับปี คาดดันส่งออกไปฟิลิปปินส์เพิ่ม

นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (DTI) ฟิลิปปินส์ ได้ประกาศยุติการไต่สวนการใช้มาตรการปกป้องเนื่องจากมีการนำเข้า (Safeguard Measure) สินค้าเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำเพิ่มสูงขึ้น (LLDPE)

shutterstock 1805518777

การประกาศดังกล่าว มีขึ้นหลังจากคณะกรรมาธิการภาษี ได้ออกรายงานผลการไต่สวนอย่างเป็นทางการว่า ไม่พบปริมาณการนำเข้าสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาก ตามที่มีการกล่าวหา จึงไม่มีเหตุผลที่จะใช้มาตรการปกป้องในสินค้าเม็ดพลาสติก LLDPE และให้ยุติการไต่สวน ถือเป็นการจบปัญหาและข้อกังวลของอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกที่เรื้อรังมาตั้งแต่ปลายปี 2563

สำหรับกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นจากการที่ บริษัทผู้ผลิตปิโตรเคมีภัณฑ์ของฟิลิปปินส์ ได้ยื่นคำขอให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ พิจารณาใช้มาตรการปกป้อง หรือมาตรการเซฟการ์ด เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าเม็ดพลาสติก LLDPE เพิ่มสูงขึ้น โดยสินค้าเม็ดพลาสติก LLDPE มักถูกนำไปใช้เพื่อผลิตถุงหรือฟิล์มพลาสติกสำหรับบรรจุอาหาร

จากนั้น กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (DTI) ได้ออกประกาศเปิดการไต่สวนเบื้องต้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 และพบว่าคำขอดังกล่าวมีมูล จึงเห็นควรให้คณะกรรมาธิการภาษีดำเนินการไต่สวนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564

ต่อมา กรมการค้าต่างประเทศ ได้ดำเนินการโต้แย้งการพิจารณาใช้มาตรการปกป้องของรัฐบาลฟิลิปปินส์อย่างจริงจังและเข้มข้นมาโดยตลอด ตั้งแต่ชั้นการรับคำขอ ผลการพิจารณาขั้นต้น การไต่สวนอย่างเป็นทางการ รวมถึงการมีถ้อยแถลงในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ เพื่อเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์ยุติการไต่สวนและไม่ให้บังคับใช้มาตรการปกป้องในสินค้าดังกล่าว

พาณิชย์

จนในที่สุดได้มีการยุติการไต่สวนมาตรการปกป้อง จึงถือเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกไทย เนื่องจากได้สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้นำเข้าฟิลิปปินส์ว่าสินค้าเม็ดพลาสติกนำเข้าจากไทยจะปลอดจากภาระอากรปกป้อง

สำหรับกลุ่มสินค้าเม็ดพลาสติก เป็นสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 4 ของมูลค่าส่งออกไปทั่วโลกของไทย โดยมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ประมาณปีละกว่า 3 แสนล้านบาท

ในส่วนของสินค้าเม็ดพลาสติก LLDPE มูลค่าการส่งออกในปี 2564 อยู่ที่ 57,000 ล้านบาท และในไตรมาสแรกของปี 2565 อยู่ที่ 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% โดยมีจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 คิดเป็น 60% ของมูลค่าการส่งออกรวม ตามด้วยอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย

ขณะที่ฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 9 โดยในปี 2564 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และในไตรมาสแรกของปี 2565 อยู่ที่ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% โดยเม็ดพลาสติกไทยมีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 หรือ 25% ของการนำเข้าในฟิลิปปินส์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo