ชัชชาติ – ส.อ.ท. ผนึกกำลังร่วมพัฒนา ขับเคลื่อนกรุงเทพ นำเสนอยุทธศาสตร์ 4 ด้าน ภายใต้แนวคิด BCG+ES
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) นำโดย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมหารือร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
เพื่อร่วมหารือ แนวทางการขับเคลื่อนกรุงเทพมหานคร ผ่านการทำงานของคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชน ของกรุงเทพมหานคร (กรอ. กทม.) ในวันอังคารที่ 21 มิถุนายน 2565 ณ ห้องประชุม Passion (802) ชั้น 8 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ยุทธศาสตร์ 4 ด้าน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การหารือในครั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอยุทธศาสตร์ 4 ด้าน
- Industry Collaboration การผนึกกำลังอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง
- First2Next-Gen Industry ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคต
- Smart SMEs ยกระดับ SMEs สู่สากล
- Smart Service Platform พัฒนาการบริการเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย
ผ่านวิสัยทัศน์ “Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand” เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม
ขับเคลื่อนกรุงเทพ ภายใต้แนวคิด BCG+ES
พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนากรุงเทพมหานคร B C G + E S ประกอบด้วย ขับเคลื่อนแนวคิด B : Bio Economy เศรษฐกิจชีวภาพ ผ่านการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture Industry : SAI) โดยการนำพื้นที่เปล่าในกรุงเทพมหานครมาใช้ประโยชน์ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน แต่ทั้งนี้ ยังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถขอใบอนุญาตโรงงานได้ เนื่องจากติดผังเมือง รวมถึงขาดมาตรการจูงใจ
การผลักดัน C : Circular Economy โดยการนำขยะหรือของเหลือใช้มาเพิ่มคุณค่า (Upcycling) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะ และลดขยะโดยการนำของเหลือใช้หมุนวนนำกลับมาผลิตใหม่ แต่ปัญหาคือ ขยะยังขาดการคัดแยกที่ถูกวิธี ต้นทุนการผลิตก็ยังสูง และยังขาดการส่งเสริมอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะสามารถจัดการกับขยะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การส่งเสริม G : Green โดยให้โรงงานในเขตกรุงเทพมหานคร รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว / การสร้าง Green belt / Buffer zone เพื่อยกระดับการจัดการสิ่งแวดล้อมโรงงาน เชื่อมโยงเศรษฐกิจให้กับชุมชน และส่งเสริม Symbiosis ระหว่างโรงงานหรือระหว่างโรงงานและชุมชน ซึ่งยังต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่โรงงานด้วย ซึ่งจะสามารถช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ไปได้ด้วย
ที่สำคัญ การจัดการ E : Environment โดยเฉพาะการจัดการน้ำเสีย ปรับปรุงคลองต้นแบบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อม และการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคน กทม. ให้ดีขึ้น
ท้ายที่สุด การยกระดับ S : Safety & Clean Street food เรื่องการจัดการความปลอดภัยร้านอาหาร Street food, Local food ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยในการประกอบอาหาร การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงการสร้างความเป็นระเบียบของสังคมกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้น
ตั้งคณะกรรมการ รัฐ-เอกชน แก้ปัญหาศรษฐกิจกทม.
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเมือง สร้างรายได้และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดังนั้น เพื่อเป็นบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
จึงเห็นพ้องร่วมกัน ในการจัดตั้ง คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ กทม. (กรอ. กทม.) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเมือง และสนับสนุนการพัฒนาในทุกมิติ
เช่น การนำโมเดล BCG มาใช้ในขับเคลื่อนการพัฒนาเมือง การส่งเสริมโรงงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ส่งเสริมให้เอกชนร่วมปลูกต้นไม้ การฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านโครงการ 12 เทศกาล 12 เดือน และการส่งเสริมเกษตรครบวงจรเพื่อสร้างรายได้ให้แต่ชุมชน
นอกจากนี้ พร้อมที่จะพัฒนาระบบการให้บริการของ กทม. ให้มีประสิทธิภาพ ปรับปรุงการอนุมัติอนุญาตเป็นแบบ One Stop Service เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะถูกหยิบยกไปร่วมหารือกันในการประชุม กรอ. กทม. ต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชัชชาติ จัดให้ อยากรู้เอา ‘ภาษี’ ไปทำอะไร ดู ร่างงบฯ ในเว็บไซต์ กทม. ได้เลย
- ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เซ็นประกาศแล้ว 437 ‘โรงเรียนปลอดกัญชา’
- กลุ่มโรงกลั่นฯ ส.อ.ท. สวนหมัด ‘กรณ์’ แจงทุกประเด็น ‘ค่ากลั่นน้ำมัน’ ลั่นกำหนดเองไม่ได้