Business

ปตท. ปรับแผนลงทุนใหม่ เพิ่มงบปี 2565 เป็น 91,179 ล้านบาท

ปตท. ปรับแผนลงทุนมุ่งเน้นธุรกิจใหม่ เพิ่มงบปี 2565 เป็น 91,179 ล้านบาท ใน 5 ธุรกิจ พร้อมทบทวนแผนการลงทุนของ ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% มีทั้งเพิ่มงบลงทุน และลดงบลงทุนในบางธุรกิจ 

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น PTT ผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีอย่างครบวงจรในฐานะเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ โดยมีทั้งกิจการที่ ปตท. ดำเนินการเอง ได้แก่ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจที่ลงทุนผ่านบริษัทย่อยหรือกลุ่มบริษัท ได้แก่ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว ธุรกิจปีโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก ธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปการ ธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจให้บริการ

ปตท.

ทั้งนี้ ล่าสุดปตท. แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับการปรับแผนการลงทุนปี 2565 หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ได้ทบทวนแผนการลงทุนของ ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% โดยอนุมัติให้เพิ่มงบการลงทุนเป็น 91,179 ล้านบาท จากเดิมวางไว้ที่ 46,589 ล้านบาท

สำหรับแผนการลงทุนที่ปรับใหม่มีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้
1. ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปรับเป็น 11,186 ล้านบาท จากเดิม 13,232 ล้านบาท (ลดลง 2,046 ล้านบาท)
2. ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ปรับเป็น 7,538 ล้านบาท จากเดิม 9,305 ล้านบาท (ลดลง 1,767 ล้านบาท)
3. ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปรับเป็น 1,258 ล้านบาท จากเดิม 1,180 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 78 ล้านบาท)
4. ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและสำนักงานใหญ่ ปรับเป็น 14,765 ล้านบาท จากเดิม 3,862 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10,903 ล้านบาท)
5. การลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ปรับเป็น 56,432 ล้านบาท จากเดิม 19,010 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 37,422 ล้านบาท)

ปตท.

โดยรวมงบลงทุนที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 44,590 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% และกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจ LNG

รวมถึงการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของ บริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด (Horizon Plus) และการลงทุนในธุรกิจด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science: ธุรกิจยา, Nutrition และอุปกรณ์และการวินิจฉัยทางการแพทย์) จากที่ธุรกิจยามีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท Lotus Pharmaceutical Company Limited

 

ปตท.

ขณะที่การลงทุนในโครงการอื่นๆ ยังคงเป็นไปตามแผนการลงทุนเดิม ได้แก่ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1 และโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 8 รวมทั้งโครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5

ทั้งนี้ ยังมีการลงทุนผ่านบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ได้แก่ การขยายขีดความสามารถของสถานีรับจ่าย LNG แห่งที่ 2 (หนองแฟบ), โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3

ปตท.
ขอบคุณภาพ: บริษัท ปตท.

ถือว่าเป็นการทบทวนแผนที่น่าสนใจทีเดียว เพราะเห็นชัดถึงการมุ่งเน้นขยายไปสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นโอกาสในการสร้าง New S-curve ในอนาคต ซึ่งก็ตอบโจทย์ทิศทางของปตท. ที่ให้ความสำคัญกับ 4 แกนหลัก ได้แก่ Resilience Restart Reimagination และ Reform ภายใต้วิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond หรือ ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต เพื่อเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight