Business

จ๊าก!! ค่าไฟจ่อขึ้นอีก 40 สตางค์/หน่วย รอบเดือนก.ย.-ธ.ค.65

ร้องจ๊าก!! ปรับขึ้นอีกแล้ว ประชาชนอ่วมหนัก ค่าไฟจ่อปรับขึ้นอีก 40 สตางค์ต่อหน่วย ในรอบเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 รอประกาศทางการปลายเดือนก.ค.นี้  

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ยังไม่มีการพิจารณาเพราะต้องรอปิดรอบการคำนวณก่อน เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มคำนวณกลางเดือนมิถุนายนนี้ จะประกาศในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2565

เบื้องต้นต้นทุนที่ได้ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ตามที่ สำนักงาน กกพ.คาดการณ์หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คาดว่าค่าไฟรอบใหม่ หรือรอบปลายปีจะปรับขึ้น 40 สตางค์ต่อหน่วย  เป็นตัวเลขที่ไม่ส่งต่อให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระ

ค่าไฟ

“เดิมค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ส่งผลให้ประมาณการค่าเอฟที ช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 สูงขึ้นเป็น 129.91 สตางค์ต่อหน่วย แต่กกพ.พิจารณาภายใต้หลักแบบขั้นบันได 3 งวด เฉลี่ยงวดละ 47.3 สตางค์ต่อหน่วย และกฟผ.ช่วยรับภาระจึงลดลงอยู่ที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่วนงวดใหม่เบื้องต้นตัวเลขคำนวณยังไม่เปลี่ยนแปลง คาดจะขึ้น 40 สตางค์ต่อหน่วย” นายคมกฤช กล่าว

ค่าไฟ
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์

ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมัน รายงานจากทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้น  โดยได้แรงหนุนจากสหภาพยุโรป (EU) เดินหน้าพิจารณามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียในการประชุมสุดยอด (Summit) ในวันที่ 30-31 พฤษภาคม 2565 กระทรวงการคลังสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตรเครือข่ายการลักลอบขนน้ำมันและฟอกเงิน ซึ่งอิหร่านและรัสเซีย สนับสนุน อาทิ บริษัท RPP LLC ในรัสเซีย, Zamanoil DMCC ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Haokun Energy Group Co. Ltd. ในจีน, และ China Haokun Energy Ltd.  เป็นบริษัทลูกที่อยู่ในฮ่องกง เป็นต้น

นักวิเคราะห์ของธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ คาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูง จากความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐ ขณะที่อุปทานน้ำมันมีแนวโน้มลดลง ขณะเดียวกันสถานการณ์ราคาน้ำมัน ที่จะเพิ่มขึ้นยังประกอบกับสหรัฐ เข้าสู่ฤดูขับขี่ท่องเที่ยว โดยสมาคมรถยนต์แห่งอเมริกา (AAA) คาดการณ์จำนวนประชาชนที่เดินทาง (ระยะทาง 50 ไมล์ขึ้นไป) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% อยู่ที่ราว 34.9 ล้านคน

นักวิเคราะห์ของธนาคาร UBS นาย Giovanni Staunovo คาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูง จากความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐ ขณะที่อุปทานน้ำมันมีแนวโน้มลดลง

กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (G7: แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐ) ที่ประชุมช่วง 25- 27 พฤษภาคม 2565 เรียกร้องให้กลุ่ม OPEC จะประชุมในวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ช่วยบรรเทาภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มตึงตัวจากการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย เพื่อความมั่นคงทางพลังงานโลก

ทั้งนี้ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.50% ในการประชุมเดือน มิถุนายน และ กรกฎาคม 2565

ค่าไฟ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight