Business

เปิดผลสำรวจ 50 ซีอีโอสรุป 7 เทรนด์สำคัญ การบริหารคนและองค์กร

สลิงชอท กรุ๊ป เปิดผลสำรวจ 50 ซีอีโอเผย 7 เทรนด์สำคัญ การบริหารคนและองค์กรในปี 2565

บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป เปิดผลสำรวจผู้นำ 50 องค์กรชั้นนำของประเทศไทย ที่อยู่ในระบบนิเวศผู้นำองค์กร (Ecosystem Leadership) ช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 THE Q1/2022 SLINGSHOT TOP 50 CEOS SURVEY โดยประเด็นสำคัญคือ อะไรคือสิ่งที่ CEO คาดหวังในปี 2565 

การบริหารคนและองค์กร

ดร. สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสลิงชอท เปิดเผยว่า ภายใต้การต่อสู้เพื่อให้ธุรกิจรอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ ได้รู้จักคุณค่าที่แท้จริงของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ไม่เป็นเพียงเทรนด์ แต่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับบุคลากร ทีมงาน องค์กร ลูกค้าและสังคม

ผู้นำหลายองค์กรพบว่า บริบทการบริหารหลังจากนี้เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน และวิกฤติโรคระบาดเป็นเพียงสนามซ้อมใหญ่ ที่ต่อไปนี้ การบริหารบนความไม่แน่นอนจะกลายเป็นความปกติใหม่

ดังนั้น ช่วงเวลานี้คือ รอยต่อสำคัญที่ต้องเริ่มกลับมาทบทวนกลยุทธ์อย่างจริงจัง ผ่านการถอดบทเรียนที่ผ่านมา กับการอยู่ให้ชนะอย่างยั่งยืนบนความไม่แน่นอนในอนาคต

จากผลสำรวจซีอีโอ พบ 7 เทรนด์สำคัญ สำหรับกลยุทธ์เรื่องการบริหารคนและองค์กรที่ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยควรคำนึงในปี 2565 ดังนี้

1. เศรษฐกิจจะเติบโตด้วยกำลังและทักษะแรงงานที่จำกัด

ผลสำรวจ 51% ของซีอีโอ คาดว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะดีขึ้น แต่ยังมีความท้าทายภายใต้ปัญหาการบริหารบนความไม่แน่นอน การฟื้นตัวในแต่ละอุตสาหกรรมไม่เท่ากัน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ยิ่งกว่านั้น ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนที่สูงขึ้น ภายใต้ข้อจำกัดด้านแรงงาน ซึ่งการบริหารธุรกิจบนความไม่แน่นอน ส่งผลให้ธุรกิจต้องการแรงงานที่มีทักษะขั้นสูงและมีทักษะหลากหลาย (Multi-skill) ซึ่งไม่ได้หาง่ายและสร้างไม่ทัน ทำให้เกิดการแย่งแรงงานและซื้อตัวแรงงานที่มีฝีมือข้ามอุตสาหกรรม

2. ยุทธศาสตร์ที่ผู้นำต้องโฟกัสจริงจัง คือ ทรานส์ฟอร์มองค์กรให้สำเร็จ

ผลสำรวจพบว่า 47% ของซีอีโอ ชัดเจนกับเป้าหมายหลักในการนำเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง บทเรียนที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าองค์กรต้องใช้คนน้อยลงบนเงื่อนไขที่ประสิทธิภาพประสิทธิผลไม่กระทบ

ดังนั้น จุดโฟกัสเรื่องทรานส์ฟอร์มต่อจากนี้ไปคือ การสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ซึ่งต้องทำทั้งกระบวนการ

ทั้งนี้ การบริหารคนและองค์กรที่สำคัญคือ การสรรหาและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ และมีทักษะที่จำเป็นต่ออนาคตขององค์กร จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้การทรานส์ฟอร์มประสบผลสำเร็จ

บริหารคนและองค์กรในปี 2565

3. การทำงานแบบไฮบริด จะกลายเป็นวิธีการทำงานหลัก แต่ผู้นำหลายคนยังคาดหวังให้คนกลับมาสำนักงาน

ซีอีโอทั้งหมดเชื่อว่า การทำงานแบบไฮบริดได้กลายเป็นวิธีการทำงานหลักที่เป็นที่ยอมรับ แต่ในเชิงลึกผู้นำหลายคนยังคาดหวังให้คนมาที่ออฟฟิศ ภายใต้การสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานแบบไฮบริด

อีกประเด็นที่กลุ่มซีอีโอ ให้ความสนใจคือ การสร้างความพร้อมทางเทคโนโลยี ไม่ตกเทรนด์กับเครื่องมือใหม่ ๆ

4. การสร้างประสบการณ์ให้พนักงาน (Employee Experience) จะเป็นตัวขับเคลื่อนการทำงานแบบไฮบริดให้สำเร็จ

Employee Experience ถือเป็นหัวข้อที่มีความซับซ้อน เพราะครอบคลุมหลายเรื่อง โดยผลสำรวจพบว่า 30% ของซีอีโอมองว่า การเห็นคุณค่าของงานที่ทำ (Meaningful Work) เป็นสิ่งที่สร้างประสบการณ์ที่สำคัญให้กับพนักงาน

5. กลยุทธ์เรื่อง คน จะถูกทบทวนครั้งใหญ่อีกครั้ง และธุรกิจยังถูกขับเคลื่อน โดยคนเป็นหลัก

แม้เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ แต่ซีอีโอถึง 70% มองว่าไม่มีทางจะแทนคนได้ทั้งหมด กลยุทธ์สำคัญยังถูกขับเคลื่อนด้วยคน และคนเป็นเป้าหมายของธุรกิจ

หนึ่งในปัญหาด้านคนที่ร้อนแรงที่สุดคือ เรื่อง Power Skills ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนต้องสามารถเป็นผู้นำ ตัดสินใจได้เองอย่างมีกลยุทธ์ รวมถึงทำงานเป็นทีม สื่อสาร เล่าเรื่องเป็น ซึ่งทักษะเหล่านี้คือสิ่งที่ทรงพลังและยั่งยืนในธุรกิจ

6. People Analytic จะถูกใช้ในทุกแง่มุมของธุรกิจ

ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ได้มีการปรับเอาเทคโนโลยี และการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฃอย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านคน กลับถูกมองว่าล้าหลังในการใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์และตัดสินใจ

ในปี 2565 เป็นปีที่ซีอีโอ อยากเห็นการมุ่งเน้นที่จะทำให้เกิดประโยชน์จากข้อมูลเกี่ยวกับคนเกิดขึ้นจริง

ดร. สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ 3
ดร. สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ

7. Diversity and Inclusion ยังเป็นจุดบอดในองค์กรและสังคมไทย

ซีอีโอถึง 49 คนจาก 50 คน เชื่อว่าองค์กรทำเรื่องความหลากหลายเท่าเทียมและการมีส่วนร่วมในองค์กร (Diversity and Inclusion) ได้เป็นอย่างดี

แต่เมื่อเจาะลึกพบว่า 99% ทำเรื่องนี้อยู่ในระดับผิว ๆ เท่านั้น โดยมาจากเหตุผลหลัก ๆ คือ มองว่าองค์กรไม่ได้มีปัญหาในเรื่องนี้ และเชื่อว่าได้ดูแลพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งหากไม่ปรับปรุงในอนาคตปัญหานี้จะกลายเป็นปัญหาของสังคมในที่สุด

ดร.สุทธิโสพรรณ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นรอยต่อสำคัญที่องค์กรต้องหันมาให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในที่ถูกละเลย ซึ่งการทบทวนกลยุทธ์ด้านคนและเทคโนโลยีคือ สิ่งที่องค์กรต้องทำในการทำ Transformation

ขณะที่ทักษะความเป็นผู้นำที่เป็น Power Skills ยิ่งทวีความสำคัญ และการให้ความสำคัญกับ Employee Experience กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานแบบไฮบริด รวมทั้งธุรกิจจะใช้ People Analytic เพื่อการตัดสินใจในทุกด้านของธุรกิจ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo