Business

พาณิชย์ร้องเวียดนามเลิกคุมนำเข้ารถยนต์

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผย ไทยใช้เวทีดับเบิลยูทีโอ เรียกร้องให้เวียดนามยกเลิกมาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์ ชี้เป็นการเลือกปฏิบัติ กระทบผู้ส่งออก

เอ็มโอยูล้านช้าง-แม่โขง
อรมน ทรัพย์ทวีธรรม

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (ทีบีที) ในสังกัดองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ไทยได้ร่วมกับสหรัฐ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป (อียู) เรียกร้องให้เวียดนามยกเลิกมาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา เวียดนามได้บังคับใช้มาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์ภายใต้ข้อบังคับ 116/2017 กำหนดให้ตรวจสอบมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยต่อรถยนต์ที่นำเข้าทุกล็อต

ไทยมองว่า ข้อบังคับดังกล่าวถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่เข้มงวดกว่ารถยนต์ที่ผลิตในเวียดนาม และไม่สอดคล้องกับข้อตกลงดับเบิลยูทีโอ ทั้งยังทำให้เกิดความล่าช้า เพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับผู้ส่งออก และส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์จากไทย ไปเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญ

เมื่อปี 2560 ไทยส่งออกรถยนต์ไปเวียดนามจำนวน 37,000 คัน มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท

ที่ผ่านมา รัฐบาลไทย และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้หยิบยกปัญหานี้ขึ้นหารือกับเวียดนามในทุกเวที ทั้งในระดับพหุภาคี ภูมิภาค และทวิภาคี เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาและดำเนินการให้สอดคล้องกับดับเบิลยูทีโอ ซึ่งแม้จะมีสัญญาณเชิงบวก เนื่องจากรถยนต์จากไทยประมาณ 2,000 คัน สามารถเข้าไปในประเทศเวียดนามได้แล้ว

แต่ปัจจุบันเวียดนามมีห้องปฏิบัติการทดสอบมลพิษและความปลอดภัยเพียงแห่งเดียว จึงอาจเกิดความล่าช้าและสร้างความไม่แน่นอนให้กับผู้ส่งออก

พาณิชย์ร้องเวียดนามเลิกคุมนำเข้ารถยนต์

กระทรวงพาณิชย์ได้ผลักดันให้เวียดนามแก้ปัญหาให้ไทยต่อไป รวมทั้งได้ร่วมกับสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นเรียกร้องเวียดนามในการประชุมทีบีทีที่ผ่านมา และเตรียมที่จะยกประเด็นนี้ขึ้นหารือกับเวียดนามในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (เจทีซี) ไทย-เวียดนาม ในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้การส่งออกรถยนต์ไทยไปเวียดนามกลับสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว

ร้องอียูทบทวนเลิกใช้เชื้อเพลิงชีวภาพน้ำมันปาล์ม

ในเวทีเดียวกันนี้ ไทยยังได้ร่วมกับอินโดนีเซีย โคลอมเบีย คอสตาริกา กัวเตมาลา และไนจีเรีย สนับสนุนถ้อยแถลงของมาเลเซีย ที่แสดงความกังวลกับแผนแก้ไขกฎหมายพลังงานทดแทนของอียู ที่จะยกเลิกการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากน้ำมันปาล์ม ในปี 2564 ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานที่เลือกปฏิบัติต่อสินค้าน้ำมันปาล์ม ขณะที่ยังอนุญาตให้ใช้น้ำมันพืชอื่นๆ ได้ถึงปี 2569 ซึ่งอียูชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาและยังไม่ได้สรุปผล

พาณิชย์ร้องเวียดนามเลิกคุมนำเข้ารถยนต์

ทั้งนี้ ไทยมีการส่งออกน้ำมันปาล์มไปอียูไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับการส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยในปี 2560 ไทยส่งออกน้ำมันปาล์มไปอียู 2,486 ตัน ขณะที่อินโดนีเซีย และมาเลเซียส่งออกไป 4,000 ล้านตัน และ 1,800 ล้านตัน ตามลำดับ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight