Business

รวมครบทุกเรื่องที่นี่!! ประกันภัยข้าวนาปี 2565-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เช็คเลย

ธ.ก.ส. พร้อมแล้ว เปิดรับทำประกันภัยข้าว 2565 และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ่านรายละเอียดครบทุกเรื่อง ที่นี่

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2565 แล้วนั้น

ประกันภัยข้าว 2565

ล่าสุด ธ.ก.ส. เปิดรับทำประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2565 ครอบคลุม 7 ภัยธรรมชาติและภัยศัตรูพืช วงเงินคุ้มครองข้าวนาปี 1,190 บาทต่อไร่และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1,500 บาทต่อไร่

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า โครงการประกันภัยข้าว 2565 และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2565 จะเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกร และเป็นการต่อยอดความช่วยเหลือจากภาครัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ 7 ภัย

  • น้ำท่วม หรือฝนตกหนัก
  • ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง
  • ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น
  • ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็งลูกเห็บ
  • ไฟไหม้
  • ช้างป่า
  • ภัยศัตรูพืชและโรคระบาด

ทั้งนี้ แบ่งเป็นการรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) และการรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจของเกษตรกร (Tier 2) โดย ธ.ก.ส. ในฐานะธนาคารของรัฐพร้อมขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว โดยวางเป้าหมายพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 28 ล้านไร่ และพื้นที่ปลูกข้าวโพดกว่า 2 ล้านไร่

ธกส. 1

โครงการประกันภัยข้าว 2565

  • ผู้เอาประกันต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งปรับข้อมูลเกษตรกับกรมส่งเสริมการเกษตร (ทบก.) ในปีการผลิต 2565/66
  • รัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนค่าเบี้ยประกัน 59.40 บาทต่อไร่
  • วงเงินคุ้มครองสำหรับภัยธรรมชาติทั้งหมด 7 ภัย จำนวน 1,190 บาทต่อไร่
  • กรณีศัตรูพืชและ โรคระบาด วงเงินความคุ้มครอง 595 บาทต่อไร่

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรสามารถเลือกซื้อประกันขั้นพื้นฐานตามพื้นที่ความเสี่ยง (Tier 1) ได้แก่ พื้นที่เสี่ยงต่ำ 99 บาทต่อไร่ พื้นที่ความเสี่ยงกลาง 199 บาทต่อไร่ และพื้นที่ความเสี่ยงสูง 218 บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)

กรณีเกษตรกรลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อกับ ธ.ก.ส. จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 99 บาท ในทุกพื้นที่ความเสี่ยง และทุก ๆ ยอดสินเชื่อ 4,000 บาท ธ.ก.ส. จะสนับสนุน ค่าเบี้ยประกันให้ฟรี 39.60 บาท

สำหรับลูกค้าเกษตรกรที่สนใจซื้อประกันภัยส่วนเพิ่ม (Tier 2) สามารถชำระค่าเบี้ยประกันได้ด้วยตนเอง ได้แก่ พื้นที่เสี่ยงต่ำ 27 บาทต่อไร่ พื้นที่ความเสี่ยงกลาง 60 บาทต่อไร่ และพื้นที่ความเสี่ยงสูง 110 บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) วงเงินคุ้มครองเพิ่มอีก 240 บาท กรณีเกิด 7 ภัยธรรมชาติ และวงเงินคุ้มครองเพิ่ม 120 บาท กรณีโรคระบาด/ศัตรูพืช

LINE ALBUM Rice ยางพารา ข้าวโพด ๒๒๐๕๐๔

โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2565

  • ผู้เอาประกันต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ขึ้นทะเบียน และแจ้งปรับข้อมูลเกษตรกับกรมส่งเสริมการเกษตร (ทบก.) ในปีการผลิต 2565/66
  • รัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนค่าเบี้ยประกัน 96 บาทต่อไร่
  • วงเงินคุ้มครองสำหรับภัยธรรมชาติทั้งหมด 7 ภัย จำนวน 1,500 บาทต่อไร่
  • กรณีศัตรูพืชและ โรคระบาด วงเงินความคุ้มครอง 750 บาทต่อไร่

เกษตรกรสามารถเลือกซื้อประกันภัยข้าว 2565 ตามพื้นที่ความเสี่ยง ได้แก่ พื้นที่เสี่ยงต่ำ 150 บาทต่อไร่ พื้นที่ความเสี่ยงกลาง 350 บาทต่อไร่ และพื้นที่ความเสี่ยงสูง 550 บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ธกสวงเงิน

กรณีเกษตรกรลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อกับ ธ.ก.ส. จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 160 บาท ในทุกพื้นที่ความเสี่ยง และทุก ๆ ยอดสินเชื่อ 4,000 บาท ธ.ก.ส. จะสนับสนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้ฟรี 64 บาท

เกษตรกรที่สนใจซื้อประกันภัยส่วนเพิ่ม (Tier 2) สามารถชำระค่าเบี้ยประกันได้ด้วยตนเอง ได้แก่ พื้นที่เสี่ยงต่ำ 90 บาท ต่อไร่ พื้นที่ความเสี่ยงกลาง 100 บาทต่อไร่ และพื้นที่ความเสี่ยงสูง 110 บาทต่อไร่ วงเงินคุ้มครองกรณีเกิด 7 ภัยธรรมชาติเพิ่มอีก 240 บาท และกรณีโรคระบาด/ศัตรูพืช เพิ่มอีก 120 บาท

ระยะเวลาแบ่งเป็น 2 รอบการผลิต ได้แก่ รอบการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูฝน สิ้นสุดการขอเอาประกันภัย 31 พฤษภาคม และรอบการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง (1 ตุลาคม 2565 – 15 มกราคม 2566)

กรณีเกิดภัยพิบัติ หรือพื้นที่ดังกล่าว ได้รับการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เกษตรกรผู้ทำประกันภัยที่ได้รับความเสียหาย สามารถแจ้งความเสียหายได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ ซึ่งสำนักงานเกษตรอำเภอ จะส่งข้อมูลไปยังสมาคมวินาศภัย เพื่อประเมินข้อมูลความเสียหาย

เมื่อตรวจสอบครบถ้วนแล้ว สมาคมฯ จะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไข ภายใน 15 วัน ผ่านระบบ ธ.ก.ส. โดยเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรโดยตรง

อีกทั้งเกษตรกรสามารถบันทึกข้อมูลความเสียหายผ่านแอปพลิเคชั่น มะลิซ้อน เพื่อให้สมาคมวินาศภัยไทย พิจารณาให้ความช่วยเหลือ กรณีพื้นที่ภัยพิบัติอยู่นอกเขตประกาศตามเกณฑ์เพิ่มเติมต่อไป

ธกส1

ในปีการผลิต 2564 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการข้าวนาปี 3.66 ล้านราย พื้นที่รวมกว่า 43 ล้านไร่ โครงการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีเกษตรกรเข้าร่วม จำนวน 99,335 ราย พื้นที่รวมกว่า 1.59 ล้านไร่

ขณะเดียวกัน ได้จ่ายค่าสินไsมทดแทนในโครงการประกันภัยข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เกษตรกรไปแล้ว 117,565 ราย จำนวนเงินกว่า 1,553 ล้านบาท คิดเป็นพื้นที่การเกษตรกว่า 1.27 ล้านไร่

เกษตรกรสามารถตรวจสอบสิทธิการทำประกันภัย หรือซื้อประกันภัยเพิ่มเติมอีกได้ ผ่านทางแอปพลิเคชั่น BAAC Insure โดยดาวน์โหลดได้ผ่านระบบ IOS และ Android หรือเพียงนำบัตรประชาชนไปติดต่อ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center 02 555 0555 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.baac.or.th นายธนารัตน์กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo