การก่อสร้าง รถไฟทางคู่สายใต้ ใกล้แล้วเสร็จ เตรียมเปิดเดินรถบางส่วนปีนี้ ใช้เวลาเดินทางได้เร็วขึ้นเท่าตัว
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดี กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางคู่สายใต้ ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่เป็น Project Pipeline ที่มีความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานะความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร
แบ่งเป็น 3 โครงการ ดังนี้
- ช่วงนครปฐม – หัวหิน แบ่งเป็น 2 สัญญา ได้แก่
- สัญญาที่ 1 (นครปฐม – หนองปลาไหล) ระยะทาง 93 กิโลเมตร ความคืบหน้าผลงานร้อยละ 97.087
- สัญญาที่ 2 (หนองปลาไหล – หัวหิน) ระยะทาง 76 กิโลเมตร ความคืบหน้าผลงานร้อยละ 94.828
- ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 76 กิโลเมตร ความคืบหน้าผลงานร้อยละ 94.828
- ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร แบ่งเป็น 2 สัญญา ได้แก่
- สัญญาที่ 1 (ประจวบคีรีขันธ์ – บางสะพานน้อย) ระยะทาง 88 กิโลเมตร ความคืบหน้าผลงาน ร้อยละ 85.073
- สัญญาที่ 2 (บางสะพานน้อย – ชุมพร) ระยะทาง 79 กิโลเมตร ความคืบหน้าผลงานร้อยละ 87.128
ถ้านับภาพรวม ผลการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ (ช่วงนครปฐม – ชุมพร) ถือว่าแล้วเสร็จไปกว่า 99.98% ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้บางช่วง เฉพาะในเส้นทางที่มีระบบอาณัติสัญญาณ เท่านั้น และจะเป็นการเดินรถระบบกึ่งอัตโนมัติจากต้นทาง กทม. มายังสถานีหัวหิน ซึ่งการเดินรถจะไวขึ้น เร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง เหลือเพียงประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2565 นี้
สถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่ เป็นสถานียกระดับ มีทางเดินใต้สถานี แห่งแรกในประเทศไทย
นอกจากนั้น ยังมีการก่อสร้าง “สถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่” ซึ่งเป็นสถานียกระดับที่มีทางเดินใต้สถานี แห่งแรกในประเทศไทย เป็นหนึ่งในงานก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วง นครปฐม – ชุมพร (ช่วงหนองปลาไหล – หัวหิน)
โดยสถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่นี้ เป็นโครงสร้างยกระดับ มีที่ทำการและที่พักคอยอยู่ชั้นล่าง ชานซาลาอยู่ชั้นบน การออกแบบยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของสถานีเดิม ที่ออกแบบตามสถาปัตยกรรมวิกตอเรีย ซึ่งมีคุณค่าความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ถัดจากสถานีหัวหินเดิมไปทางทิศใต้ โดยปัจจุบันมีความคืบหน้างานก่อสร้างร้อยละ 80 งานตกแต่งสถาปัตยกรรมร้อยละ 30 และงานระบบไฟฟ้าและเครื่องของสถานีร้อยละ 20
โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2565 ทั้งนี้อาคารสถานีเดิมยังคงอนุรักษ์ไว้ โดยมีแผนที่จะพัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์ และทางรถไฟที่ผ่านสถานีเดิมยังใช้งานอยู่ โดยไว้สำหรับขบวนรถสินค้าและขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญ
ตรวจประเมิน สถานีดีพร้อม 8 ด้าน
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ยังได้ลงพื้นที่ตรวจประเมินสถานีรถไฟหัวหิน ภายใต้กิจกรรมประกวด “สถานีดีพร้อม” โดยมีการประเมินโดยรวมทั้งหมด 8 ด้านประกอบไปด้วย
- ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เช่น การให้บริการที่จอดรถ ทางเข้า – ออก ในการรองรับ การใช้บริการ การจำหน่ายบัตรโดยสาร
- ด้านการเชื่อมต่อ (Connectivity) เช่น การเชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบอื่น
- ด้านข้อมูลการเดินทางและประชาสัมพันธ์ (Information) เช่น ป้ายบอกทิศทางในสถานี การติดประกาศ/การให้ข้อมูลในการเดินทาง
- ด้านความปลอดภัย (Safety and Security) เช่น มาตรการป้องกัน COVID-19 การติดตั้งกล้องวงจรปิด ไฟส่องสว่าง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทางออกฉุกเฉิน
- ด้านความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวก (Comfort) เช่น ห้องน้ำ ร้านค้า/อาหาร/เครื่องดื่ม ความสามารถในการรองรับผู้มาใช้บริการ
- ด้านการออกแบบตามหลัก Universal Design เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ
- ด้านการให้บริการ (Customer Care) เช่น กิริยามารยาทและความสุภาพของเจ้าหน้าที่
- ด้านสุนทรียภาพ (Aesthetic) เช่น สุนทรียภาพ อัตลักษณ์ หรือการจัดการสิ่งแวดล้อมของสถานี ซึ่งในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2565 นี้ จะมีการเดินสายตรวจประเมินคุณภาพทุกสถานีที่เข้าร่วมประกวดจำนวนทั้งสิ้น 43 สถานี แบ่งเป็น กลุ่มสถานีรถไฟฟ้าในเมืองและชานเมือง จำนวน 28 สถานี และกลุ่มสถานีรถไฟ ทั่วประเทศ จำนวน 15 สถานี เพื่อคัดเลือกอย่างเข้มข้น หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาในเดือนมิถุนายน และตัดสินการประกวดและมอบรางวัลในเดือนกรกฎาคม 2565 ต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เดินหน้าก่อสร้าง ‘สถานีร่วมศิริราช’ จุดต่อเชื่อมรถไฟฟ้าสีแดงอ่อน-สีส้ม และอาคารรักษาพยาบาล
- สงกรานต์ ประชาชนใช้ รถไฟ รถไฟฟ้า กว่า 3 ล้านคน
- ‘ระยะปลอดภัย’ ขับรถกลับจากสงกรานต์ ควรห่างจากคันหน้าเท่าไหร่? เบรกแล้วไม่เกิดอุบัติเหตุ