Business

ฟรุ้ทบอร์ด ปลุกตลาดผลไม้ ทั่วประเทศ เพิ่มการบริโภค 40% ปั้น Brand Ortorkor สู่สากล

ฟรุ้ทบอร์ด ปลุกตลาดผลไม้ ทั่วประเทศ ขยายตลาดออนไลน์ คู่ ออฟไลน์ เพิ่มการบริโภคในประเทศ 40% พร้อมปั้น Brand Ortorkor สู่สากล

วันนี้ (30 เม.ย.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลไม้ล่วงหน้า ในคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และการบริหารจัดการตลาดสดของ อ.ต.ก. พร้อมทั้งมอบนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อผลักดันการบริโภคผลไม้และผลผลิตทางการเกษตรของไทย

ปลุกตลาดผลไม้

ปลุกตลาดผลไม้ ปั้น Brand Ortorkor ให้เป็นที่รู้จักระดับสากล

โดยกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ อ.ต.ก. เป็นหน่วยงานกลางผู้ประสานงาน ระหว่างตลาดสินค้าเกษตรทั้งหมดทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริม ผลักดันการบริโภคผลไม้ไทย พร้อมทั้งนำผลไม้ไทยบุกตลาดออนไลน์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

และในส่วนของการทำการตลาดออฟไลน์ ให้ดำเนินการเชิงบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐเช่น องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย บริษัทไปรษณีย์ไทย หอการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอี. โมเดิร์นเทรด ตลาดกลางสินค้าเกษตรทั่วประเทศ โปรโมทขายผลไม้

นอกจากนี้ขอให้ อ.ต.ก. พัฒนาและปั้น Brand Ortorkor ให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและระดับสากล เพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร และเป็นแบรนด์การันตีคุณภาพสินค้าเกษตรของไทย รวมทั้งเพิ่มจุดจำหน่ายและกระจายสินค้าเกษตรเพื่อเป็นช่องทางกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภค

นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ อ.ต.ก. เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนและสนับสนุนตลาดเกษตรกร (Farmer Market) ในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อมากที่สุดอีกด้วย

ปลุกตลาดผลไม้

เพิ่มการบริโภคผลไม้ประเทศ ลดเสี่ยงส่งออกไปจีน

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงนี้เป็นฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออก จะมีผลผลิตออกมาประมาณ 1.1 ล้านตัน เป็นทุเรียน 7 แสนตัน เงาะ 2.1 แสนตัน และมังคุด 2.1 แสนตัน และลองกอง 1.8 หมื่นตัน โดยมีแหล่งผลิตสำคัญ คือจันทบุรี ระยอง และตราด ซึ่งถือเป็นฤดูกาลใหญ่ฤดูกาลแรกของปี จากนั้นจะเป็นลำไยภาคเหนือ และลงไปที่ผลไม้ภาคใต้

จึงต้องทำงานเชิงรุกร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการเพิ่มการบริโภคผลไม้ในประเทศจาก 30% เป็น 40% เพื่อลดความเสี่ยง กรณีจีนซึ่งเป็นตลาดผลไม้ใหญ่ที่สุดของไทย เกิดการแพร่ระบาดของโควิด19ระลอกใหม่ ทำให้เข้มงวดมาตรการซีโร่โควิดมากขึ้น กระทบต่อระบบการขนส่งและการค้าผลไม้ ทั้งในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ

ปลุกตลาดผลไม้

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด) ได้มีมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ได้แก่ การสร้างความร่วมมือและความเข้าใจ กับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน( GACC) กรณีการปิด-เปิดด่าน, มาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ, การเร่งเปิดบริการการขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีน, การขยายตลาดทุเรียนไปยังตลาดรองอื่นๆ, การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การจัดเก็บผลไม้ระบบสต๊อก

และมีแผน พัฒนาห้องเย็นด้วยไนโตรเจนเหลวด้วยอุณหภูมิลบ 180-196 องศาเซลเซียส สามารถเก็บได้นานกว่า 1 ปีและคงสภาพเดิมกว่า 90% เมื่อคืนรูป เป็นต้น

รวมทั้งกำหนดเป้าหมาย ให้เพิ่มการขนส่งทางเรือเป็น 55% (ปี 2564 ขนส่งทางเรือ 51%) ทางบก 40% (เดิม 48%) ทางราง (รถไฟลาว-จีน) และทางอากาศรวมกัน 5% (เดิมทางอากาศ 0.54%) และเพิ่มการบริโภคภายในจาก 30% เป็น 40% ส่งออก 60%

ปลุกตลาดผลไม้

นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคาทุเรียนขณะนี้ว่า นายภาณุศักดิ์ สายพานิช นายกสมาคมทุเรียนไทย ให้สัมภาษณ์ยืนยันล่าสุดว่า ช่วงนี้ราคาทุเรียนที่สวนที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยที่ 110-115 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถ้าเป็นเบอร์A B ได้ 120-125 บาท ถ้าไปขายที่ล้งอาจได้ 130-135 บาท ขึ้นกับเกรดและคุณภาพ ถือว่าราคาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo