สมาคมวิศวกรฯ ยกเคสอาคารดอนเมืองถล่ม สะท้อนความรุนแรงของพายุฤดูร้อน พร้อมรวม 6 ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง
ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายก สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อาคารในสนามบินดอนเมือง ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และมีพายุฝนพัดถล่มเมื่อคืนวันที่ 18 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ทำให้หลังคาและกำแพงของอาคารได้รับความเสียหายบางส่วนนั้น เปฺ็นผลมาจาก 2 สาเหตุเบื้องต้น คือ
- ความแรงของพายุฤดูร้อน ที่มาพร้อมกับฝนฟ้าคะนอง
- น้ำหนักของน้ำฝนที่ตกลงมา และอาจขังอยู่ในบางบริเวณของหลังคา ทำให้เกินกำลังรับน้ำหนักของชิ้นส่วนโครงสร้างได้
สำหรับสาเหตุที่แท้จริง ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะส่งวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบหาสาเหตุและประเมินความเสียหายต่อไป
บทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของพายุฤดูร้อน ที่อาจจะสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างในช่วงระยะเวลานี้ได้ โดยเป็นผลจากปัจจัยเสี่ยง 6 เรื่องคือ
1. พายุฤดูร้อนมักเกิดในช่วงเดือนเมษายน หรือในช่วงก่อนเริ่มฤดูฝน เป็นพายุที่มีความรุนแรงมาก เนื่องจากความแปรปรวนในกระแสลม อาจสร้างแรงกระทำต่อโครงสร้างได้มากกว่าแรงลมทั่วไป 2 ถึง 3 เท่า
2. พายุฤดูร้อนจะเกิดในช่วงที่มีอากาศร้อนอบอ้าวติดต่อกันหลายวัน แล้วมีมวลอากาศเย็น หรือที่เรียกว่าความกดอากาศสูง พัดมาปะทะกับมวลอากาศร้อน หรือความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้อากาศในบริเวณนั้นแปรปรวนเกิดความรุนแรงจนกลายเป็นพายุฝนฟ้าคะนองขึ้น
3. พายุฤดูร้อนอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ในบางบริเวณ แต่ก็มีความรุนแรงมากที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่โครงสร้างที่มีพื้นผิวหรือพื้นที่ปะทะลมมาก เช่น หลังคา และ ผนัง เป็นต้น
4. โครงสร้างที่อ่อนไหวต่อพายุฤดูร้อนเช่น ป้ายโฆษณา หลังคา ตลอดจนบ้านเรือนหรือโครงสร้างที่ยึดกับฐานรากไม่แข็งแรงซึ่งปรากฎเป็นข่าวทุกปี
5. โครงสร้างบางประเภทอาจไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับพายุฤดูร้อนตั้งแต่ต้น เนื่องจากการกำหนดค่าแรงลมที่คำนึงถึงพายุฤดูร้อน เพิ่งเริ่มมีขึ้นในปี 2550 ซึ่งก่อนหน้าปี 2550 ค่าแรงลมที่ใช้ออกแบบอาคารตามกฎหมายควบคุมอาคารคำนึงเฉพาะแรงลมทั่วไป แต่ไม่ได้คำนึงถึงความแรงของพายุฤดูร้อน
6. สำหรับอาคาร ที่มีพื้นที่หลังคากว้าง ควรจัดการเรื่องการระบายน้ำฝนที่มาพร้อมกับพายุฤดูร้อน ไม่ให้เกิดการท่วมขัง เนื่องจากน้ำหนักน้ำค่อนข้างมาก อาจทำให้โครงสร้างหลังคาวิบัติได้
นอกจากนี้ ปัจจุบันมีกฎหมายตรวจสอบอาคารและป้ายโฆษณาที่มีความสูงเกิน 15 เมตร หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป เจ้าของอาคารและป้ายโฆษณาจะต้องจัดการให้อาคารหรือป้ายโฆษณาของตนอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อประชาชน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ประกาศพายุฤดูร้อนฉบับที่ 9 เตือน 45 จังหวัดพายุฝนถล่ม ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก
- ‘ศักดิ์สยาม’ สั่งสอบด่วน ‘อาคารผู้โดยสารหลังใหม่’ สนามบินดอนเมืองถล่ม สร้างเสร็จไม่ถึง 2 ปี
- ตั้ง ‘พิศักดิ์’ สอบเหตุ อาคารกรุ๊ปทัวร์ สนามบินดอนเมืองถล่ม!