Business

สู้ไม่ถอย!! ‘ศักดิ์สยาม’ เร่งฝ่ายกฎหมายยื่นฟ้อง ‘โฮปเวลล์’ ใหม่

“ศักดิ์สยาม” เร่งฝ่ายกฎหมายทำสำนวนยื่นฟ้องโฮปเวลล์ใหม่ คาดเสร็จสิ้นเดือน เม.ย.นี้ มั่นใจสู้คดีรอบนี้ประเทศไม่เสียเปรียบ พลิกชนะ 100% ลุยฟ้อง 3 คดี ทั้งรื้อคดีใหม่ -เพิกถอนการจดทะเบียนโฮปเวลล์ -ฟ้องนายทะเบียน ละเว้นไม่เพิกถอน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีโฮปเวลล์ ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรื้อคดี ทำให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย หรือ ค่าโง่ ให้เอกชน 2.4 หมื่นล้านบาท ว่าขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคมได้ทำ action plan แนวทางการต่อสู้คดีและได้มอบอำนาจให้อัยการสูงสุด แต่งตั้งพนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการในคดีแทนกระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท.

โดยขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการทำคำฟ้อง มั่นใจว่าจะยื่นฟ้องได้ภายในสิ้นเดือน เมษายนนี้ จะมีการรวบรวมเอกสารหลักฐานให้ได้มากและเพียงพอในการชี้แจงต่อศาล เชื่อมั่นในหลักฐานที่มีทั้งหมดว่าจะสามารถพลิกคดีชนะได้ 100% เพราะทั้งหมดนี้ได้ยึดหลักกระบวนการยุติธรรมที่จะไม่ให้ประเทศเสียผลประโยชน์

โฮปเวลล์

ทั้งนี้ในการดำเนินคดีเกี่ยวกับโฮปเวลล์ขณะนี้จะแบ่งออกเป็น 3 คดี ประกอบด้วย

1. คดีที่พิจารณาคดีใหม่  ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมและ รฟท มอบหมายให้พนักงานอัยการดำเนินคดีแทน โดยอธิบดีอัยการสำนักคดีปกครอง ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาคดี และมอบหมายให้ นายเกษม ธีระเดชานนท์ เป็นอัยการผู้รับผิดชอบคดี

2. คดีแพ่งที่กระทรวงคมนาคม มอบอำนาจให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่ง 8 คือ นายฐนัตเดช ค้ำชู เป็นผู้รับผิดชอบคดีในการฟ้องขอให้ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้สัญญาจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นโมฆะ เพราะกระทำผิด ปว. 281 ล่าสุดได้มีการกำหนดนัดพร้อมเพื่อความเห็นของศาลปกครองว่า เป็นคดีแพ่งหรือไม่ โดยศาลแพ่งนัดพร้อมในวันที่ 27 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00 น.

ในเบื้องต้นศาลแพ่งเห็นว่าเป็นคดีแพ่ง หากศาลปกครองกลางเห็นด้วยก็จะมีดำเนินคดีต่อในศาลแพ่งต่อไป แต่หากศาลปกครองกลางเห็นต่างจากเข้าคณะกรรมการชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล

โฮปเวลล์

3. คดีปกครองที่ รฟท.ได้มีการมอบอำนาจให้ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ เป็นผู้ฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วน บริษัท กรุงเทพฯ จากเหตุที่ไม่เพิกทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ฯ ที่กระทำผิด ปว. 281 ทั้งนี้ในเบื้องต้นศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับฟ้อง ดังนั้น รฟท.จึงยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าว และขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า กรณีที่ศาลปกครอง สั่งรื้อคดี โฮปเวลล์ นั้น ทางรฟท.มองว่าเป็นเรื่องที่ดีกับภาครัฐ หลังจากนี้ รฟท.จะต้องเตรียมความพร้อมในการเดินหน้าต่อไปตามกฎหมาย โดยยืนยันว่าทางกระทรวงคมนาคม และ รฟท. มีความพร้อมในเรื่องนี้อย่างมาก และพร้อมปรับตัวให้สอดคล้องต่อรูปคดีที่เกิดขึ้นจนถึงที่สุดต่อไป เพราะขั้นตอนจากนี้เหมือนเป็นการเริ่มต้นคดีใหม่ในชั้นศาลปกครองกลาง

โฮปเวลล์

กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท.มีการร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ ซึ่งศาลจะมีการไต่สวนทั้ง 2 ฝ่าย และโฮปเวลล์อาจต้องให้การใหม่ โดยหากมีการต่อสู้คดีจนถึงศาลปกครองสูงสุดอีกครั้งก็อาจต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี สำหรับประเด็นที่จะนำมาต่อสู้หลังจากนี้ อาทิ เรื่องอายุความขอคดี มติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) การจดทะเบียนวัตถุประสงค์ บริษัทฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรื่องการลงนามในสัญญา ผู้ลงนามไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีค่าโง่โฮปเวลล์ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด โดยกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาใหม่ในคดีโฮปเวลล์ จากนั้น เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565  นายศักดิ์สยาม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำหนังสือถึงศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าว ขอให้งดการบังคับคดี พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้สำนักงานบังคับคดีปกครองทราบด้วย

โฮปเวลล์

คดีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี รวม 25,711 ล้านบาท ภายใน 180 วัน  เมื่อศาลฯ มีคำสั่งงดบังคับคดี จะส่งผลให้คำสั่งชดใช้ค่าเสียหายข้างต้น รวมดอกเบี้ยจะถูกชะลอออกไปก่อน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight