Business

ผู้ชมโฆษณาออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน‘พุ่ง’

ปีที่ผ่านมาแคมเปญโฆษณาออนไลน์บนสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต มีแนวโน้มเติบโตทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งอัตราเข้าถึงกลุ่มผู้ชมเป้าหมายขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากจำนวนผู้ใช้มือถือขยายตัวสูง

รายงาน Digital Ad Ratings Benchmarks ของนีลเส็น ปีที่ผ่านมา ซึ่งวัดผลจากแคมเปญโฆษณาออนไลน์ที่ตรวจวัดกว่า 3,000 แคมเปญตั้งแต่เริ่มเปิดตัวการให้บริการปี 2558  ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และไทย) โดยเป็นบริการหน่วยวัดข้อมูลทางประชากรศาสตร์ ที่เป็นหน่วยวัดเดียวกันกับข้อมูลทีวีเรทติ้ง

พบว่ามากกว่า 9 ใน 10  หรือ 93% ของแคมเปญโฆษณาดิจิทัลช่วงครึ่งปีแรก 2560  เผยแพร่ทางสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต  โดยโฆษณาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เหล่านี้ “เข้าถึง”กลุ่มผู้ชมที่เป็นเป้าหมายของแคมเปญได้เทียบเท่าหรือมีประสิทธิภาพมากกว่าแคมเปญบนเดสก์ท็อป ในเกือบทุกช่วงกลุ่มอายุ

แคมเปญโฆษณาออนไลน์ที่มีกลุ่มเป้าหมายผู้ชมที่ช่วงอายุ 18-49 ปี ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปีที่ผ่านมา ถูกรับชมโดยกลุ่มเป้าหมาย 85% บนสมาร์ทโฟน, แทบเล็ต และเดสก์ท็อป  เทียบกับปี 2559 ที่โฆษณาออนไลน์มีอัตราการรับชมโดยกลุ่มเป้าหมายที่ 70% บนเดสก์ท็อป และ 66% บนสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต

david NS
สินธุ์ เภตรารัตน์

สินธุ์ เภตรารัตน์  กรรมการผู้จัดการธุรกิจมีเดีย นีลเส็น (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในประเทศไทย แคมเปญโฆษณาออนไลน์ที่มีกลุ่มผู้ชมเป้าหมายอายุ 18-49 ปี ครอบคลุมกลุ่มผู้ชมที่เป็นผู้ชาย 71%  ดีกว่าผู้หญิง ที่ 68%  ซึ่งประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนี้อาจมีผลมาจากอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น หากดูที่ประเภทของอุปกรณ์เฉพาะแคมเปญโฆษณาที่มีผู้ชมเป้าหมายเป็นผู้หญิง อายุ 18-49 ปี จะเห็นได้ว่าแคมเปญโฆษณาที่ได้รับชมผ่านสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต มีอัตราการรับชมโดยกลุ่มเป้าหมาย 71%  ดีกว่าที่ดูผ่านเดสก์ท็อป ที่ 55%

 “คนไทยมีพฤติกรรมที่ว่า มือถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญผลักดันให้เกิดการเติบโตของโฆษณาออนไลน์อย่างรวดเร็ว”

อย่างไรก็ตามความสำเร็จของโฆษณาบนมือถือ ที่เข้าถึงผู้ชมเฉพาะกลุ่มได้นั้นตอกย้ำว่ามือถือเป็นเครื่องมือที่มีความเป็นส่วนบุคคลสูง โดย 92% ของแคมเปญโฆษณาออนไลน์ที่วัดผลในไทยได้รับการวัดจากทั้งเดสก์ท็อป สมาร์ทโฟน และแทบเล็ต มีเพียง 8% ที่เป็นการวัดแคมเปญโฆษณาบนเดสก์ท็อป

อัตราการเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ดีที่สุด  โดยดูจากโฆษณาของแต่ละกลุ่มธุรกิจ พบว่าโฆษณาในกลุ่มธุรกิจช้อปปิ้งและค้าปลีก อยู่ที่ 72%  และกลุ่มสถาบันการเงิน 68%  ขณะที่ธุรกิจยานยนต์ 59% และสินค้าอุปโภคบริโภค 57%

ช่วงเริ่มต้น Digital Ad Ratings  ในปี 2558-2559 มีแคมเปญที่ใช้บริการเพิ่มขึ้น 50% ส่วนปี 2560  เพิ่มขึ้น 20-30%  จะเห็นได้ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาเจ้าของสินค้าและเอเยนซี มีการใช้บริการวัดผลโฆษณาออนไลน์ มากขึ้น จากความรู้และความต้องการที่มากขึ้นในการตรวจสอบผู้ชมที่เห็นโฆษณาว่าตรงกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบการใช้เม็ดเงินโฆษณาและสื่อต่างๆ ที่ใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ปี 2561 คาดว่าจะมีการใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ธนาคาร และเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจอุปโภคบริโภค, การเงิน , และยานยนต์ที่มีการใช้บริการอยู่แล้ว

จากการกระจายตัวของสื่อที่เพิ่มมากขึ้น นักการตลาดจึงต้องพิจารณาโอกาสในทุกหน้าจอ เพื่อเข้าถึงผู้ชมโฆษณา

Avatar photo