ศาลปกครองพิพากษายกฟ้องกรณี BTS เรียกค่าเสียหาย รฟม. ปมแก้ไข TOR ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนต่อขยายบางขุนนนท์-มีนบุรี แม้เปลี่ยนเงื่อนไขประมูลไม่ชอบ แต่ความเสียหายต่อBTS ยังไม่เกิดขึ้น
ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 ระหว่าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยคดีข้อพิพาทดังกล่าวสืบเนื่องจาก บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ฟ้องว่า คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
รถไฟฟ้าสายสีส้ม ศาลปกครองกลางยกฟ้องรฟม.
ศาลให้เหตุผลว่าการที่ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีมติเห็นชอบเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมภายใน 9 วัน โดยมิได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนินการแก้ไขตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน พ.ศ.2563 จึงเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมทุนรัฐและเอกชน
ดังนั้น การที่รฟม.และคณะกรรม การคัดเลือกฯ แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 โดยใช้การประเมิน ซองที่ 2 คือ ข้อเสนอด้านเทคนิค และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลประโยชน์ตอบ แทนมารวมกัน ในสัดส่วน 30:70 คะแนน เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามไม่อาจถือว่า รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ กระทำการละเมิดต่อ BTS เพราะค่าจ้างที่ปรึกษาด้านเทคนิคและค่าที่ปรึกษาทางกฎหมายที่ BTS อ้างนั้นเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินกิจการค้าตามปกติ ไม่ได้จากการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติม และเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือก จนเป็นเหตุให้ BTS ได้รับความเสียหาย ศาลจึงไม่อาจกำหนดความเสียหายดังกล่าวให้แก่ BTS ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการฟังคำพิพากษาว่า ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าว โดยศาลชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่เหตุดังกล่าวไม่ได้ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับบริษัท
“บีทีเอสจะหารือฝ่ายกฎหมายว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน” นายสุรพงษ์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงิน เพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 1 มีเนื้อหาดังนี้
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 มาตรา 20 (4) และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการบริหาร หนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 10,800,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นแปดร้อยล้านบาทถ้วน) โดยวิธีการทำสัญญากู้ยืมเงิน (Term Loan ) กับสถาบันการเงิน
2. การเบิกเงินกู้ กระทรวงการคลัง จะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2564 จนถึงวันที่ 9 เมษายน 2566 โดยจะแจ้งผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทำการ
3. อายุเงินกู้ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2564 ครบกำหนดในวันที่ 9 ธันวาคม 2568
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คลังกู้เงิน ‘หมื่นล้าน’ สร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม
- ไปต่อ! รฟม.เร่งประมูลรถไฟฟ้า ‘สายสีส้ม’ หลังศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี
- ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน! สั่งจำหน่ายคดีปม’ BTS’ ขอถอนเกณฑ์ร่วมทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม