เจาะเส้นทาง ‘สุกี้ตี๋น้อย’ ปักหมุดรายได้ 3,000 ล้านบาท เตรียมเข้าตลาดหุ้น สำหรับ สุกี้ตี๋น้อย คือ ร้านบุฟเฟ่สไตล์สุกี้ชาบู ที่แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ปีนี้
สุกี้ตี๋น้อย คือ ร้านบุฟเฟ่สไตล์สุกี้ชาบู ที่แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ปีนี้ ไม่ว่าจะเรื่องของยอดขายที่ปัจจุบันทะลุ 1,000 ล้านบาทไปแล้ว จำนวนสาขาที่มีอยู่ทั้งสิ้น 32 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนลูกค้าเฉลี่ยที่สูงถึง 30,000 คนต่อวัน
รวมถึงแบรนด์สุกี้ตี๋น้อยที่กลายเป็น Top of mind ของผู้บริโภคเวลานึกถึงร้านบุฟเฟ่ของครอบครัวที่คุณภาพคุ้มเกินราคา แถมยังอร่อยไม่อั้นตั้งแต่เที่ยงวันยันเช้า
สุกี้ตี๋น้อย จุดเริ่มต้น
แบรนด์สุกี้ตี๋น้อย เริ่มมาจากไอเดียการทำธุรกิจของ “คุณนัทธมน พิศาลกิจวนิช” ผู้บริหารสาวในวัยไม่ถึง 30 ปี ซึ่งครอบครัวของเธอเคย มีประสบการณ์ทำธุรกิจร้านอาหาร “เรือนปั้นหยา” มาก่อน แต่มี Pain Point ในเรื่องการรักษาคุณภาพของรสชาติอาหารให้คงที่เมื่อต้องขยายสาขาจำนวนมาก เพราะด้วยลักษณะธุรกิจที่ต้องทำอาหารเสิร์ฟจานต่อจาน
คุณนัทธมน จึงเริ่มมองหาธุรกิจร้านอาหารที่สามารถควบคุมมาตรฐานรสชาติได้ง่าย ไม่ว่าลูกค้าจะไปใช้บริการสาขาไหน รสชาติอาหารก็เหมือนกัน ซึ่งร้านสุกี้ ชาบู สไตล์บุฟเฟต์ สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี จนกลายมาเป็นแบรนด์สุกี้ตี๋น้อยอย่างในปัจจุบัน
สิ่งที่ทำให้สุกี้ตี๋น้อย แตกต่างจากร้านสุกี้ชาบูแบรนด์อื่นๆ ที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศ นั่นคือ “ความคุ้มค่าที่เกินความคาดหวัง” โดยตั้งราคาขายเหมาจ่ายแบบบุฟเฟต์ 199 บาทราคาเดียวทุกสาขา (ปัจจุบันปรับขึ้นเป็น 219 บาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นต่อเนื่อง) แต่มีให้เลือกกว่า 50 เมนู บวกกับรสชาติที่ถูกปากคนไทย และการรักษามาตรฐานอาหารด้วยการทำครัวกลางเพื่อกระจายสินค้าไปยังแต่ละสาขา
อีกทั้งยังมีกลยุทธ์ขยายสาขาโดยเน้นเลือกตั้งสาขาแบบสแตนด์อโลน ที่มีที่จอดรถจำนวนมาก รวมถึงช่วงเวลาเปิดที่ยาวนานตั้งแต่เวลา 12:00 น. จนถึง 5:00 น. (ในช่วงสถานการณ์ปกติ) ส่งผลให้สุกี้ตี๋น้อยเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ไว่าจะเป็นครอบครัว วัยรุ่น วัยทำงาน กระทั่งสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นปรากฎการณ์
เปิดรายได้ สุกี้ตี๋น้อย เติบโตมากแค่ไหน?
สุกี้ตี๋น้อย จดทะเบียนธุรกิจภายใต้ชื่อ “บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป” ตั้งแต่ปี 2562 โดยพบว่าผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 2 ปีที่ผานมา เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้ ปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 499 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท
ทว่าในปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 1,222 ล้านบาท เติบโต 144.89% และมีกำไรสุทธิ 140 ล้านบาท เติบโต 833.33%
ปัจจุบันสุกี้ตี๋น้อยมีจำนวนสาขา 32 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีลูกค้ารวมทุกสาขาเฉลี่ย 30,000 คนต่อวัน และตั้งเป้าจะขยายสาขาอีกกว่า 10 แห่งในปีนี้ โดยทั้งหมดจะเป็นสาขาที่ทางบริษัทบริหารเอง ไม่ได้เปิดขายแฟรนไชส์
สุกี้ตี๋น้อย เตรียมเข้าตลาดหุ้น
การเติบโตที่ก้าวกระโดดแบบนี้ ทำให้สุกี้ตี๋น้อยมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 3 ปี (ปี 2565-2567) ซึ่งหมุดหมายที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนเข้าตลาด นั่นก็คือการขยายสาขาให้ครบ 60 แห่ง และสร้างรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท หรือเป็นการเติบโตกว่าเท่าตัวจากปัจจุบัน
สำหรับแผนการเติบโตในอนาคตนั้น เริ่มแรกจะมีการปรับปรุงครัวกลางให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการรองรับการขยายสาขาในอนาคต นอกจากนี้ จะมีการเปิดแบรนด์ร้านอาหารใหม่อีก 1 แบรนด์ ซึ่งอาจจะเป็นแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นมาเอง หรือซื้อแบรนด์อื่นจากทั้งในและต่างประเทศก็ได้
ขอบคุณภาพ: เพจสุกี้ตี๋น้อย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สื่อยกย่อง! ‘อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์’ สุดยอด CEO
- ‘OR’ ทุ่มกว่า 200 ล้าน ปักหมุด BTS อารีย์ ผุด ‘Flagship Store Café Amazon’
- 7 ทศวรรษ ‘โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี’ จากร้านยาตึกแถวสู่น้องใหม่ mai