Business

ภูเก็ตได้เฮ! ครม.อนุมัติกว่า 1.4 หมื่นล้าน สร้างทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง ลดอุบัติเหตุ

ครม. อนุมัติโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 14,670.57 ล้านบาท พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ลดอุบัติเหตุทางถนน เพิ่มเส้นทางอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)  มีมติอนุมัติโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะดำเนินการภายใต้รูปแบบคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เงินลงทุนเริ่มต้น 14,670.57 ล้านบาท ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร ที่ประชุมวันนี้ ได้อนุมัติค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและค่าชดเชยสิ่งปลูกสร้าง วงเงิน 5,792.24 ล้านบาท โดยคาดว่ากทพ.จะประกาศเชิญชวนเอกชนในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ เริ่มก่อสร้างในปี 2566 คาดว่าเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2570

S 28213277

สำหรับโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เพื่อเพิ่มเส้นทางการเดินทางระหว่างตัวเมืองฝั่งตะวันออก ของภูเก็ตไปยังหาดป่าตองให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว ลดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น เนื่องจากสภาพเส้นทางที่ลาดชันและคดเคี้ยว และใช้เป็นเส้นทางอพยพ กรณีเกิดภัยพิบัติ (เช่น กรณีเกิดสึนามิ) มีลักษณะ/รูปแบบ เป็นโครงการก่อสร้างทางยกระดับ มีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลาง ของแนวเส้นทาง ระยะทางรวม 3.98 กม. เป็นทางพิเศษ ขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง มี จุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับถนนพระเมตตา ในพื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการฯ ในพื้นที่ ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ มีทางขึ้น -ลง 2 แห่ง และมีด่านเก็บค่าผ่านทางตั้งอยู่บริเวณ ตำบลกะทู้ 1 ด่าน

สำหรับรูปแบบการลงทุน เป็นลักษณะการร่วมลงทุน ระหว่าง รัฐและเอกชน (PPP) ใน รูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ได้แก่ การออกแบบ รายละเอียดและการก่อสร้าง และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) โดยเอกชนจะโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมดให้แก่ภาครัฐก่อนเริ่ม ดำเนินงานพร้อมทั้งให้เอกชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รายได้ค่าผ่านทาง ระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี

S 28213274 e1642491509500

โครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต คาดการณ์จะใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ 5 ปี (พ.ค. 2565 – ก.ค. 2570) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสัญจรกับประชาชนในพื้นที่ตลอดจนนักท่องเที่ยว และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศเป็นไปตามการสนับสนุนการพัฒนา จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) อีกด้วย

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ย้ำในที่ประชุม ครม. ว่าการลงทุนของภาครัฐทุกโครงการ ฯ ทั้งโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โครงการไฟฟ้าชุมชน และโครงการอื่นๆ ประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด โดยให้เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีโดยตรง” นายธนกร กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight