Business

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดแผนร่วมสู้โอไมครอน ป้องกันปูพรม ฟื้นฟู SMEs-เศรษฐกิจ

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ชู 5 แนวทางปฏิบัติ ร่วมผลักดัน และพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ให้รอดจากวิกฤตโอไมครอน พร้อมแนะ 4 แนวทางภาครัฐต้องดำเนินการเร่งด่วน

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธาน สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโอไมครอนที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงประเทศไทย ที่มีการแพร่กระจายไปยัง 47 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 30,000 คนต่อวัน

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย

สมาคมฯ จึงมีความกังวล ต่อแนวโน้มของจำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันสกัด การแพร่ระบาด และลดความรุนแรงให้ลดลงให้ได้มากที่สุด

ดังนั้น การทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อของโอไมครอนลดลง หรือให้มีจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ต้องใช้ระบบป้องกันแบบปูพรม (Innate Immunity) เพิ่มความช่วยเหลือให้ SMEs ไทยมีสภาพคล่อง และการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยชง 4 ข้อเร่งรัฐดำเนินการด่วน

1. รัฐต้องมีมาตรการเชิงรุก สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดให้มีการควบคุมอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม หากมีการระบาดในแต่ละพื้นที่ รัฐควรมีการปิดเฉพาะพื้นที่ที่เป็นคลัสเตอร์เท่านั้น

2. การยกระดับการเตรียมพร้อมของระบบสาธารณสุข

  • เร่งกระจายวัคซีน ทั้งในส่วนที่ประชาชนได้จองไว้ผ่านโรงพยาบาลเอกชน และในส่วนที่รัฐบาลจัดหามา เพื่อให้วัคซีนกระจายถึงประชาชนให้มากที่สุด และเร็วที่สุด
  • เสริมชุดตรวจ ATK ที่มีคุณภาพสูง ในราคาที่ภาคเอกชนและประชาชนสามารถเข้าถึงได้ เนื่องจาก มีความจำเป็นต้องใช้เป็นจำนวนมากเพื่อการตรวจเชื้อโควิด-19
  • เตรียมยารักษาโควิด-19 ให้พร้อม เผื่อในกรณีที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในวงกว้าง เพื่อเป็นการตัดตอนการแพร่ระบาดให้ได้ทันท่วงที
  • สำรองเตียงสำหรับผู้ป่วยหนัก ให้มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นทั่วประเทศ

20220104 Infographic Omichorn

3. อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐที่มีผลลัพธ์ที่ดี เช่น โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน เป็นต้น รวมทั้งการเร่งเบิกงบประมาณทุกหน่วยงานของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเงินหมุนเวียนในระบบฯ

4. ช่วยภาคเอกชนและประชาชนลดค่าใช้จ่าย โดยช่วยลดค่าน้ำ ค่าไฟ ลดเงินสมทบประกันสังคม ภาษีป้าย รวมถึงดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงิน ดอกเบี้ยบัตรเครดิต ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ไม่มีการค้ำประกัน และพิจารณาลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการทั้งที่เกี่ยวข้องกับโควิดทางตรงและทางอ้อม

ประกาศยึด 5 แนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

1. สนับสนุนพื้นที่จุดฉีดวัคซีนทั่วประเทศ  โดยพร้อมจะนำพื้นที่จุดฉีดวัคซีนของภาคเอกชนกลับมาทันที เพื่อช่วยรัฐบาลในการเป็นจุดกระจายการฉีดวัคซีนให้เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศอย่างทั่วถึง รวมทั้งให้การสนับสนุนหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เข้าถึงชุมชน

2. ยกระดับมาตรฐานสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดเข้มข้นขั้นสูงสุด ยึดหลัก Covid Free Setting ป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) และพร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบาย Work From Home เพื่อเป็นการช่วยลดการแพร่กระจายของโอไมครอน

K.Yol 1
ญนน์ โภคทรัพย์

3. ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย โดยเร่งผลักดันใไห้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน ดอกเบี้ยต่ำ ผ่านแฟลตฟอร์ม Digital Supplychain Finance ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย รวมทั้งยังลดเครดิตเทอมให้สั้นลง เพื่อเสริมสภาพคล่องและช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นการช่วยให้ SMEs ไทยดำเนินธุรกิจต่อไปได้

4. ตรึงราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

5. เร่งการลงทุนในประเทศ ภาคค้าปลีกและบริการ ยังคงไว้ซึ่งแผนการลงทุน และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการช่วยอัดฉีดเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย และยังสร้างการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่แล้วในระบบค้าปลีกและบริการกว่า 1.1 ล้านคน

การร่วมมือกัน จะเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยอย่างมีประสิทธิผลและต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ผมเชื่อมั่นว่าทุกคนได้ร่วมกันผ่านจุดที่ยากที่สุดมาแล้ว และเป็นอีกครั้งที่ทุกภาคส่วนต้องพร้อมใจร่วมฝ่าฟันความท้าทายครั้งนี้ ซึ่งจะนำบทเรียนการปรับตัวในอดีตมาปรับใช้ เพื่อเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้แก่ประเทศ แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดอีกกี่ครั้งก็ตาม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo