คนหาบ้านต้องรู้ เช็คพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมบ่อยในกรุงเทพฯ ก่อนคิดซื้อบ้าน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เปิดทำเลเสี่ยงน้ำท่วม แต่แนวโน้มราคายังบวก
น้ำท่วมเป็นปัญหาที่คนกรุงฯ อ่อนใจมายาวนาน อีกทั้งเมื่อพิจารณาลักษณะทางกายภาพร่วมกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) ทำให้มีการคาดการณ์ว่าในอนาคตกรุงเทพฯ จะมีโอกาสจมน้ำ
เห็นได้จากรายงานความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่คาดการณ์จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลแบบสภาวะสุดขีดใน 7 เมืองของเอเชียภายในปี 2573 ของกรีนพีซ เผยว่า สภาพภูมิศาสตร์ของกรุงเทพฯ เป็นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม หากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น ภายในปี 2573
ทำไมกรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองน้ำมาก
- ความเจริญอย่างรวดเร็วเปลี่ยนพื้นที่รับน้ำ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและระบบคมนาคมเพื่อรองรับการเป็นเมืองหลวง ส่งผลให้เกิดการกระจุกตัวของแหล่งงาน สถานศึกษา และการลงทุนของภาคธุรกิจ
- การเร่งพัฒนาของเมืองทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นพื้นที่รับหรือระบายน้ำลดน้อยลง และถูกแทนที่ด้วยสิ่งปลูกสร้าง จึงเกิดปัญหาน้ำท่วมขังได้ง่ายกว่าในอดีต
- ระบบท่อระบายน้ำในกรุงเทพฯ ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำฝนในปริมาณที่ฝนตกไม่เกิน 60 มิลลิเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น แต่ปัจจุบันฝนที่ตกลงมามีปริมาณมากกว่า 100 มิลลิเมตร/ชั่วโมง จึงทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน และยังมีปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันจากการสะสมของเศษขยะ
- พื้นดินทรุดตัวต่อเนื่อง จากการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้อุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรมมาเป็นเวลายาวนานส่งผลให้ชั้นดินค่อย ๆ ยุบตัวจนเกิดแผ่นดินทรุดตัวสะสม ทำให้ลักษณะทางกายภาพของกรุงเทพฯ เป็นแอ่งกระทะเมื่อมีฝนตกหนักจึงท่วมขังได้ง่าย
- ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แต่ละพื้นที่มีความเสี่ยงต่อน้ำท่วมไม่เท่ากัน จากข้อมูลของกรมแผนที่ทหาร พบว่า พื้นที่ในกรุงเทพฯ สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางเพียงประมาณ 1-1.5 เมตร ถือว่ามีระดับที่ไม่สูงมากนัก
- Climate change สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ดันระดับน้ำทะเลหนุนสูง เมื่อรวมกับมวลน้ำเหนือจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงฤดูฝน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมในชุมชนริมแม่น้ำเสมอ
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เผยทำเลเสี่ยงน้ำท่วม และทำเลเสี่ยงน้ำทะเลหนุนสูง พร้อมอัพเดตความสนใจซื้อ-เช่าที่อยู่อาศัยจากข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty.com ในเดือนตุลาคม 2564 รวมทั้งแนวโน้มดัชนีราคาและดัชนีอุปทาน เพื่อสะท้อนทิศทางความต้องการที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจในทำเลเหล่านี้
ทำเลเสี่ยงน้ำท่วม แต่แนวโน้มราคายังบวก
ทำเลเสี่ยงน้ำท่วมส่วนใหญ่ (ข้อมูลจากกรุงเทพมหานคร) เมื่อพิจารณาแนวโน้มราคาอสังหาฯ พบว่า มีการปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า ในขณะที่ความสนใจซื้อ-เช่ายังคงสูง
แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ
ทำเลนี้มีความสนใจซื้อในเดือนตุลาคมสูงถึง 72% จากความสนใจซื้อโดยรวมของเขต ถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับทำเลเสี่ยงน้ำท่วมอื่น ๆ ในขณะที่ความสนใจเช่าสูงถึง 57%
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาอสังหาฯ ยังคงทรงตัวจากปีก่อนหน้า ส่วนจำนวนอุปทานเพิ่มขึ้น 29% จากรอบปีก่อน มีสัดส่วนอุปทานอยู่ที่ 67% ของอุปทานโดยรวมของเขตบางซื่อ
ทำเลนี้ได้อานิสงส์จากการเปิดให้บริการของรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ช่วงบางซื่อ-รังสิต และใกล้สถานีกลางบางซื่อ ทำให้ความสนใจซื้อ-เช่ายังคงอยู่ในอัตราที่สูง
แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร
ความสนใจซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของทำเลนี้มีสัดส่วน 22% เท่ากัน เมื่อเทียบกับความสนใจซื้อและเช่าโดยรวมของเขต ด้านแนวโน้มราคาอสังหาฯ ยังเติบโต โดยเพิ่มขึ้น 7% ด้านอุปทานเพิ่มขึ้นถึง 75% จำนวนอุปทานคิดเป็นสัดส่วน 16% ของอุปทานทั้งหมดในเขตจตุจักร
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่
ความสนใจซื้อในทำเลนี้ สูงถึง 61% เมื่อเทียบกับความสนใจซื้อโดยรวมของเขต ส่วนความสนใจเช่าสูงถึง 59% เมื่อเทียบกับความสนใจเช่าโดยรวมของเขตเช่นกัน ด้านแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น 1% ขณะที่แนวโน้มอุปทานเพิ่มขึ้น 14% มีสัดส่วนอุปทานอยู่ที่ 67% ของอุปทานโดยรวมของเขตหลักสี่
แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน
มีความสนใจซื้อคิดเป็นสัดส่วน 51% เมื่อเทียบกับความสนใจซื้อโดยรวมของเขต ด้านความสนใจเช่ามีสัดส่วนอยู่ที่ 60% เมื่อเทียบกับความสนใจเช่าโดยรวมของเขต
ในส่วนแนวโน้มราคาอสังหาฯ เพิ่มขึ้น 5% ด้านแนวโน้มอุปทานเพิ่มขึ้น 16% มีสัดส่วนอุปทานอยู่ที่ 60% ของอุปทานโดยรวมของเขตบางขุนเทียน
แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค
มีความสนใจซื้อคิดเป็นสัดส่วน 24% เมื่อเทียบกับความสนใจซื้อโดยรวมของเขต ด้านความสนใจเช่ามีสัดส่วน 20% จากความสนใจเช่าโดยรวมของเขต โดยแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น 5% ด้านแนวโน้มอุปทานเพิ่มขึ้น 43% มีสัดส่วนอุปทานอยู่ที่ 29% ของอุปทานโดยรวมของเขตบางแค
ทำเลเสี่ยงน้ำทะเลหนุน แนวโน้มราคาพุ่ง
ด้านแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยในทำเลเสี่ยงน้ำทะเลหนุน ยังคงมีทิศทางเติบโต เช่นเดียวกับแนวโน้มอุปทาน
แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์
พบว่าความสนใจซื้อมีสัดส่วนอยู่ที่ 54% เมื่อเทียบกับความสนใจซื้อโดยรวมของเขต ในขณะที่ความสนใจเช่ามีสัดส่วนเพียง 14% เท่านั้นเมื่อเทียบกับความสนใจเช่าโดยรวมของเขต
ด้านแนวโน้มราคาและแนวโน้มอุปทานเพิ่มขึ้นเท่ากันที่ 29% โดยมีสัดส่วนอุปทานอยู่ที่ 38% ของอุปทานโดยรวมของเขตสัมพันธวงศ์
แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
ความสนใจซื้อและเช่ามีสัดส่วนในระดับไล่เลี่ยกัน โดยความสนใจซื้ออยู่ที่ 32% เมื่อเทียบกับความสนใจซื้อโดยรวมของเขต ส่วนความสนใจเช่าอยู่ที่ 31% เมื่อเทียบกับความสนใจเช่าโดยรวมของเขต
แนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น 5% ส่วนแนวโน้มอุปทานเพิ่มขึ้น 38% มีสัดส่วนอุปทานอยู่ที่ 26% ของอุปทานโดยรวมของเขตบางพลัด
แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี
มีความสนใจซื้อเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 35% เมื่อเทียบกับความสนใจซื้อโดยรวมของเขต ส่วนความสนใจเช่าอยู่ที่ 23% เมื่อเทียบกับความสนใจเช่าโดยรวมของเขต ในขณะที่แนวโน้มราคาทรงตัวจากรอบปีก่อนหน้า ส่วนแนวโน้มอุปทานเพิ่มขึ้น 25% มีสัดส่วนอุปทานอยู่ที่ 34% ของอุปทานโดยรวมของเขตธนบุรี
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากผังเมืองกรุงเทพฯ พบว่า ทำเลเสี่ยงน้ำท่วมและเสี่ยงน้ำทะเลหนุนส่วนใหญ่ ถูกกำหนดให้เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัย ซึ่งมีความหนาแน่นของการอยู่อาศัยปานกลางและสูง รวมทั้งมีที่ดินประเภทพาณิชยกรรมด้วย
ดังนั้น คาดว่าในอนาคตผู้พัฒนาอสังหาฯ จะเดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทำเลเหล่านี้ แม้จะเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม แต่ยังมีศักยภาพในการเติบโตอยู่ไม่น้อย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปลดล็อก LTV ปลุกตลาดอสังหาฯ ทุกระดับราคา สัญญานบวกคอนโดฟื้น
- อานิสงส์โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เขตไหนราคาอสังหาฯ พุ่งสุด เช็คเลย
- มาตรการผ่อนคลาย LTV กระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่ม วอนผ่อนคลายสินเชื่อกระตุ้นอีกแรง