กระทรวงเกษตรฯ จับมือสภาอุตสาหกรรม ดัน “1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตร” ขับเคลื่อนนโยบายรัฐ พัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เห็นชอบกำหนดโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร
นอกจากนี้ ยังเป็นการสานต่อไปสู่เป้าหมายประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารท็อปเทนของโลก ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวบนฐานเกษตร 4.0 เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรม ในระยะเริ่มต้นจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารใน 18 กลุ่มจังหวัด นำไปสู่การกระจายการลงทุน เพิ่มการจ้างงานและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรทั่วทุกภูมิภาค ตามศักยภาพของแต่ละกลุ่ม อาทิ กลุ่มจังหวัดอีสานเหนือ จ.อุดรธานี กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบนจ.อ่างทอง
ขณะที่ในบางพื้นที่ อาจใช้การเพิ่มโซนอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเดิม สามารถเริ่มจากเขตประกอบการอุตสาหกรรม หรือเขตชุมชนอุตสาหกรรม เพื่อรองรับของ เอสเอ็มอี เกษตร สหกรณ์และวิสาหกิจชุมชน
ทั้งนี้ การขับเคลื่อน จะประกอบด้วย 4 มาตรการ ได้แก่
1. มาตรการสร้างนักรบอุตสาหกรรมอาหารพันธุ์ใหม่ (Food Warrios) เป็นมาตรการสร้างผู้ประกอบอาหารรุ่นใหม่ให้มีนวัตกรรมอาหาร โดยให้ความสําคัญกับการผลิตอาหารอนาคต (Future Food) เช่น อาหารสุขภาพ (Healthy Foods) ผลิตภัณฑ์อาหารจากเทคโนโลยีชีวภาพ (Food Biotechnology Products) และอาหารใหม่ (Novel Food)
2. มาตรการสร้างนวัตกรรมอาหารอนาคต (Future Food Innovation)เป็นการยกระดับนวัตกรรมอาหารอนาคตสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ โดยนําเอานวัตกรรมมาใช้ในการผลิต และ แปรรูปอาหาร และสนับสนุนการใช้บรรจุภัณฑ์ฉลาด( Intelligence Packaging )
3. มาตรการสร้างโอกาสทางธุรกิจเกษตรและอาหาร (New Marketing Platform) ทั้งในและต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
4. มาตรการสร้างปัจจัยพื้นฐานเพื่อเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรม (Enabling) ที่เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของไทย และกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะดึงผู้ผลิตรายใหญ่เข้ามาเป็นผู้มีส่วนร่วมหลักในการพัฒนาควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาเกษตรกรเข้าสู่ระบบ Smart Farming
การกําหนดพื้นที่และสินค้าเป้าหมาย
1. สินค้าเป้าหมายภายใต้แผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
2. สินค้าที่ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication: GI)
3. สินค้าเกษตรอินทรีย์ เครื่องดื่มสุขภาพ (Healthy drinks)
4. ผลิตภัณฑ์อาหารจากเทคโนโลยีชีวภาพ อาหารใหม่ (Novel Food)
5. อาหารและวัตถุดิบเพื่อผลิตอาหารคุณภาพสูง และธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมอาหาร เช่นบรรจุภัณฑ์อาหาร และเทคโนโลยีดิจิทัล และที่สำคัญ
6. สินค้าอาหารแห่งอนาคต (Future Food) เช่น อาหารสุขภาพและอาหารฟังก์ชัน (Healthy and Functional Food)
ทั้งนี้ จะนำร่องด้วย ผำ หรือ ไข่ผำน้ำ (Wolffia) ซึ่งเป็นพืชวัฒนธรรมและอาหารพื้นเมืองของไทย มีมากในภาคเหนือและภาคอีสาน ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ว่าเป็นสุดยอดซูเปอร์ฟู้ดของโลก เพราะมีโภชนาการครบถ้วนสูงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์โปรตีน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สิงห์ เอสเตท เดินหน้าลุยสร้างนิคมฯ ‘เอส อ่างทอง’ รับเกษตร-อาหารรุ่ง คาดเสร็จปี 66
- โควิดซัด อุตสาหกรรมเกษตร อาหารไทย หดตัว 6% จ้างงานลดกว่า 7 แสนคน
- ‘พาณิชย์’ เร่งหาแนวทางช่วยร้านอาหารทั่วไทย หลังโควิดกระทบหนัก!