Business

1 พ.ย.นี้! เปิด 5 จังหวัดรับต่างชาติเที่ยวไทย – ย้ำระหว่างทางต้องไม่พบติดเชื้อโควิดใหม่

เปิด 5 จังหวัดรับต่างชาติ  “นายกฯ” ปลื้มโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เดินหน้าเปิดพื้นที่พลิกโฉมประเทศไทยด้านท่องเที่ยว มั่นใจ 1 พ.ย.นี้ เปิด 5 จังหวัดรับต่างชาติหารายได้เข้าประเทศ ย้ำระหว่างทางก่อนถึง 1 พ.ย.นี้ ทั้ง 5 จังหวัดต้องไม่พบติดเชื้อโควิดใหม่ ที่เป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ และมีความรุนแรงจนสร้างความกังวล

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมผลสำเร็จจาก โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่ 3 เดือนที่เปิดมาสร้างมูลค่าหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 2,330 ล้านบาทแล้ว (ณ วันที่ 27 ก.ย.64) ปัจจุบันมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2564 จำนวน 43,026 คน  ขณะที่จำนวนการจองที่พัก SHA+ Phuket Sandbox

เปิด 5 จังหวัดรับต่างชาติ

เปิด 5 จังหวัดรับต่างชาติ เที่ยวไทย เริ่ม 1 พ.ย.นี้ 

สำหรับการเข้าพักระหว่างเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ 779,502 คืน โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกมาจากอเมริกา อิสราเอล อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศส ส่วนโครงการสมุยพลัส (Samui Plus) และโครงการส่วนขยายของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 (Phuket Extension) มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม ทั้งสิ้น 1,069 คน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เดินหน้าเปิดอีก 5 พื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ได้แก่ กรุงเทพฯ จังหวัดเชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อ.หัวหิน) จังหวัดเพชรบุรี (อ.ชะอำ) และจังหวัดชลบุรี (เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขคือในระหว่างทางก่อนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จังหวัดที่กำหนดไว้จะต้องไม่พบการติดเชื้อโควิดใหม่ ที่เป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่และมีความรุนแรงจนสร้างความกังวลสูงอีกรอบ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ แม้นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะนิยมเดินทางไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทะเลหรือภูเขา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ ต้องเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯ ก่อนอย่างน้อยหนึ่งรอบอยู่แล้ว

รัฐบาลได้คาดการณ์เป้าหมายรายได้รวมการท่องเที่ยวในปี 2565 อยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จำนวน 15 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 6 แสนล้านบาท ส่วนตลาดไทยเที่ยวไทย เกิดการเดินทาง 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 8 แสนล้านบาท  หากประเมินในแง่รายได้ของตลาดรวมจะคิดเป็น 50% ของปีปกติก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 หรือ ปี 2562 ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 3.4 ล้านล้านบาท

เปิด 5 จังหวัดรับต่างชาติ

ทั้งนี้ การเข้ามาของต่างชาติจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับคนไทยด้วย ที่จะพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากน้อยแค่ไหน ทุกคนที่มาได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และมีการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเข้ามาแล้ว รวมถึงหากประเมินจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จากจำนวนต่างชาติที่เข้ามา ไม่พบว่ามีการติดเชื้อโควิดที่แพร่ระหว่างต่างชาติกับคนไทยเลย ขอให้มั่นใจและร่วมเดินหน้าพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย สู่การกระจายรายได้สู่ชุมชน และรักษาการจ้างงาน ใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ไป ด้วยกัน

เปิด 5 จังหวัดรับต่างชาติ ย้ำต้องไม่พบคลัสเตอร์ขนาดใหญ่

ก่อนหน้านี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำว่าวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะเปิดอีก 5 พื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า) ประจวบคีรีขันธ์ (อ.หัวหิน) เพชรบุรี (อ.ชะอำ) และ ชลบุรี (เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) ได้แน่นอน ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่พบคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ และรุนแรงในช่วงก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เพราะแม้นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะนิยมเดินทางไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทะเล หรือภูเขาของประเทศไทย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯ ก่อน

เปิด 5 จังหวัดรับต่างชาติ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ

ส่วนแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะถัดไป จะเป็นการเปิดแบบกึ่งปกติ ไม่ได้เป็นการเปิดแบบแซนด์บ็อกซ์แล้ว เนื่องจากไม่ได้เป็นระยะนำร่องทดลองเหมือน 4 จังหวัดที่เปิดแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุยพลัสโมเดล ที่เป็นการเปิดเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดกระบี่ ในพื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ และจังหวัดพังงา พื้นที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight