แนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวหลังโควิด “นีโอ ทัวริสซึ่ม” คนรุ่นใหม่ กลุ่มครอบครัว พร้อมออกเที่ยวหลังรับวัคซีน ชี้ธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ ประกันการเดินทางเสริมโควิดรับอานิสงส์
ผศ. ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า ซีเอ็มเอ็มยู ได้จัดทำวิจัยเรื่อง NEO TOURISM ท่องเที่ยวมิติใหม่ เจาะอินไซต์นักเดินทาง เพื่อให้ธุรกิจการท่องเที่ยวปรับตัวให้ทัน NEXT NORMAL หรือการเปลี่ยนแปลงหลังพายุโควิด-19 สงบลง และให้สอดรับกับพฤติกรรมนักเดินทางที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ ได้เน้นสำรวจกลุ่มเป้าหมาย 1,098 คน ซึ่งจะเป็นกลุ่มนักเดินทางหลัก หลังได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young Neo Traveler) อายุ 18-35 ปี ยังไม่มีบุตร ซึ่งจะเป็นกลุ่มแรกออกเดินทางที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ และปรับเปลี่ยนวิธีการให้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มนี้
2. กลุ่มครอบครัว (Family Neo Traveler) อายุ 27-45 ปีขึ้นไป ที่มีสมาชิกมากกว่า 2Gen ขึ้นไป เป็นกลุ่มคนที่มีบุตรแล้ว นับเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมไทยในปัจจุบัน และมีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ
ข้อมูลน่าสนใจ พบเทรนด์ฺท่องเที่ยวหลังโควิด ดังนี้
ปัจจัยที่ทำให้นักเดินทางกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง
อันดับ 1 ยอดผู้ติดเชื้อลดลง น้อยกว่า 500 คนต่อวัน โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มครอบครัว คิดเห็นตรงกัน 48%
อันดับ 2 สัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีน มีมากกว่า 70% ทั่วประเทศ
อันดับ 3 ตนเองได้รับวัคซีนที่มั่นใจ
เมื่อพิจารณาสถิติความต้องการในการท่องเที่ยว พบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ 45.8% และกลุ่มครอบครัว 52.2% ยังรู้สึกกังวล โดยรอสถานการณ์คลี่คลายก่อน รองมา กลุ่มคนรุ่นใหม่ 43.8% และกลุ่มครอบครัว 28.3% ต้องการเที่ยวโดยเร็วที่สุด ตามด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ 10.4% และกลุ่มครอบครัว 19.6% เที่ยวก็ได้ ไม่เที่ยวก็ได้
นิยมท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติมากสุด หลังโควิด-19
จากการวิจัยพบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ 45% และกลุ่มครอบครัว 61% ต้องการออกไปสัมผัสธรรมชาติเนื่องจากอยู่ที่บ้านมาระยะนาน และการท่องเที่ยวในประเทศจะเป็นตัวเลือกที่นักเดินทางต้องการมากที่สุด
ผลสำรวจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ 71% และกลุ่มครอบครัว 92% ซึ่งจังหวัดท่องเที่ยวที่จะได้รับความนิยมสูงสุด 3 จังหวัดแรกในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี ตามลำดับ ส่วนกลุ่มครอบครัว ได้แก่ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ตามลำดับ
ธุรกิจรับอานิสงส์ท่องเที่ยว
การท่องที่ยวหลังโควิด-19 พบว่าธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์ ระหว่างทริปที่นักเดินทางโหยหาที่สุด คือ ธุรกิจกลุ่มร้านอาหารและคาเฟ่ ซึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ มักมีพฤติกรรมตระเวนหาอาหารโดยจะเลือกร้านที่ไม่แออัด มีพื้นที่นั่งด้านนอก เหมาะแก่การเลี่ยงการนั่งทานอาหารที่ทุกคนต้องถอดหน้ากาก หรือเน้นแบบธรรมชาติ ชมวิวทิวทัศน์
ขณะที่กลุ่มครอบครัว ให้ความสำคัญต่อการพักผ่อนในที่พักเป็นหลักมากกว่า โดยเปลี่ยนเป็นทานอาหารในโรงแรมเป็นหลัก เพราะเชื่อมั่นในการรักษาความสะอาดของภาชนะในโรงแรม และจะเลือกทำกิจกรรมในโรงแรมมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทาง ซึ่งมาตรการรักษาความสะอาด บรรยากาศของสถานที่ และบริการของพนักงาน จะเป็นสิ่งสำคัญที่นักเดินทางพิจารณามากขึ้นและพร้อมบอกต่อเมื่อรู้สึกประทับใจ
อีกหนึ่งการค้นพบที่น่าสนใจคือ ธุรกิจประกันเดินทางเสริมเรื่องโควิด-19 อาจจะเป็นบริการที่มาแรง เพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่สนใจซื้อประกันมากถึง 59.4% ขณะที่กลุ่มครอบครัวสนใจซื้อประกัน พุ่งสูงถึง 71.7%
ข้อมูลงบประมาณ และระยะเวลาในการท่องเที่ยว
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ จะเลือกจัดแผนการเดินทางที่ 3-4 วัน เดินทางเป็นกลุ่ม 3-4 คน ตั้งงบประมาณต่อคนไว้ 3,000-5,000 บาท
- กลุ่มครอบครัว เลือกจัดทริป 3-4 วัน เฉพาะคนในครอบครัว ตั้งงบประมาณต่อครอบครัวลดลงเหลือ 3,000-5,000 บาท
การใช้ช่องทางออนไลน์ในการใช้หาข้อมูลก่อนการเดินทาง
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ นิยมดูข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม เฟซบุ๊ก (Facebook) 31.1% รองมาคือเว็บไซต์ Google 29.4% และ YouTube 21.9%
- กลุ่มครอบครัว นิยมดูข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Google 38.6% รองมาคือ เฟซบุ๊ก (Facebook) 29.8% และ YouTube 19.8%
ความเปลี่ยนแปลงที่พบได้ชัดเจนคือ นักเดินทางเลือกติดต่อตรงกับโรงแรม (Direct To Hotel: D2H) เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น 2% และกลุ่มครอบครัวเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่การติดต่อจองที่พักผ่าน Online Travel Agent เช่น Booking.com, Agoda ลดน้อยลง กลุ่มคนรุ่นใหม่ ลดลง 5% และกลุ่มครอบครัวลดลง 3%
ธุรกิจการท่องเที่ยวนับจากนี้ ควรเสริมทำ D2H หรือ Direct To Hotel เพิ่มมากขึ้น ให้สอดรับกับพฤติกรรมนักเดินทางที่เปลี่ยนไป รวมทั้งควรชูจุดขายด้านการสื่อสารกับนักเดินทางโดยตรง ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น LINE OA, Facebook, Instagram เป็นต้น รวมถึงการติดต่อลูกค้าโดยตร
ด้าน นางสาวธรชญาน์ สุขสายชล นักศึกษาปริญญาโท วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) และหัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลวิจัย ทำให้ค้นพบแนวโน้มการท่องเที่ยวใหม่ (NEO TOURISM TRENDS) 3 ข้อที่ต้องให้ความสำคัญ ประกอบด้วย
1. Nature Seeking ตามหาธรรมชาติ
2. Hygieneaholic ติดสะอาด
3. Flexi Needed ต้องการความยืดหยุ่น
นอกจากนี้ ยังแนะนำกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ เพื่อธุรกิจท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ที่เรียกว่า ROADMAP STRATEGIES ที่จะเป็นแนวทางการรับมือของธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวไทยสู่ยุค NEO TOURISM รับปี 2565 ครั้งสำคัญ ดังนี้
- R: Reliable Service ยกระดับความน่าเชื่อถือในการบริการ
ธุรกิจต้องมีมาตรการรองรับที่ชัดเจน ทั้งในด้านสุขอนามัยความปลอดภัย คุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงศักยภาพของบุคลากรที่แสดงถึงความพร้อมในการให้บริการ
- O: Optimized Experience ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ปรับให้โดนใจนักท่องเที่ยว
ธุรกิจต้องสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่โดยปรับให้เหมาะกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป
- A: Anti-Disease ปลอดเชื้อ ปลอดโรค ปลอดโปร่ง และปลอดภัย
ธุรกิจต้องเน้นเรื่องความสะอาด ปลอดภัย มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อแสดงความมั่นใจต่อนักเดินทาง เช่น เปลี่ยนจาก Welcoming Drink เป็น Welcoming hygienic kit set มอบหน้ากากผ้าสกรีนโลโก้โรงแรม หรือ ATK (home use) เป็นของที่ระลึก
- D: Direct to Hotel ดีลตรงกับโรงแรม แต้มต่อโดนใจ จัดให้ไม่อั้น
ธุรกิจต้องรู้จักสร้างช่องทางการขายที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ตัดคนกลางออกจากกระบวนการซื้อขาย เพื่อลดช่องว่างในการสื่อสาร และมอบบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
- M: Media Matching ใช้สื่อหลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง
เจาะกลุ่มเป้าหมายต่างวัยต่างสไตล์ โดยการใช้ช่องทาง การสื่อสารที่หลากหลาย
- A: Alliance กระชับมิตรกับคู่ค้า เพื่อจัดการบริการแบบเกื้อหนุน
สร้างเครือข่ายทางธุรกิจเพื่อผนึกกำลัง รังสรรค์บริการที่ครบครันสมบูรณ์แบบ
- P: Part of Community ขับเคลื่อนชุมชน ควบคู่กับพัฒนาธุรกิจตนให้ยั่งยืน
การที่ธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนชุมชนผ่านรูปแบบการให้บริการที่กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ให้บริการบนพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยรอบ รวมไปถึงการพัฒนาธุรกิจของตนเพื่อให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง สู่การเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ จัดวัคซีนลงจังหวัดกระบี่ 5 แสนโดส มอบนโยบายฟื้นเศรษฐกิจ รับนักท่องเที่ยวทั้งจังหวัด 1 พ.ย.นี้
- 1 พ.ย. เปิดแน่ กรุงเทพ-4 จังหวัด ‘พิพัฒน์’ หวังปีหน้า ท่องเที่ยวฟื้นรายได้ 50% จากก่อนโควิด
- สมุยพลัสแซนด์บ็อกซ์ เปิดรับนักท่องเที่ยว 2 เดือนสร้างรายได้กว่า 38 ล้านบาท