Business

โพลเผยคนไทยความสุขลด-ช้อปปิ้งเพิ่ม เครื่องสำอาง สกินแคร์ ติดโผ 5 ช้อปลิสต์สูงสุด

ฮาคูโฮโด เปิดโพล คนไทยความสุขลดลง แต่ยังช้อปปิ้งคึกคัก ลดความเครียด สาวไทยไม่หยุดสวย ดันเครื่องสำอาง สกินแคร์ ติดท็อป 5 ของสินค้าที่ผู้คนเลือกใช้จ่ายสูงสุด

ปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลกระทบต่อทุกคน ซึ่งไม่ใช่กระทบแค่ด้านสังคมและเศรษฐกิจ แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงสุขภาพจิต และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้คนจำนวนมาก

เครื่องสำอาง สกินแคร์

หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดที่เกิดขึ้นเป็นระลอกที่ 4 พบว่า พฤติกรรมผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ส่วนใหญ่ยังคงเฝ้าระวังต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับรายได้ที่ไม่มั่นคงในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายหลังวิกฤติโควิด-19

สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ร่วมมือกับ บริษัท สไปซี่ เอช จำกัด ลงพื้นที่สำรวจและการคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยประจำเดือนตุลาคม 2564 พบว่า ถึงแม้ความสุขคนไทยต่ำสุดในรอบปี อยู่ที่ 59% โดยลดลง 4% จากเดือนสิงหาคม แต่ความต้องการใช้จ่ายกลับดีดสูงสุดที่ 58%

ทั้งนี้ สินค้าหลักที่ผู้คนจับจ่าย ยังคงเป็นสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เครื่องสำอาง สกินแคร์  เพื่อลดความเครียดจากการทำงานในช่วงที่ต้องอยู่บ้าน และหาสินค้าเพื่อการปรับตัวและดำเนินชีวิตให้มีความสุขในยุคโควิด อาทิ โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน เครื่องนอน

นางสาวชุติมา วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยรอบนี้พบว่า ประเด็นที่คนไทยติดตามมากที่สุด ยังหนีไม่พ้นปัญหาและสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อ ซึ่งนับเป็นประเด็นที่สำคัญและส่งผลต่อความสุขของคนไทยในระยะยาว

ช้อป e1633073292340

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจไม่แพ้กันคือ มาตรการเยียวยาของทางภาครัฐก็ดี แนวโน้มของสถานการณ์ล็อคดาวน์ที่ดูจะคลี่คลายไปบ้างก็ดี รวมถึงประเด็นร้อนแรงอย่างเรื่องวัคซีนยี่ห้อต่าง ๆ ที่จะนำเข้ามายังประเทศไทย อีกทั้งเรื่องความต้องการของชุดตรวจ ATK

ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของคนไทย ที่ยังต้องเฝ้าระวังตัวจากโควิด-19 โดยผลสำรวจพบว่ามีข้อบ่งชี้สำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคอยู่ 2 ข้อด้วยกัน ได้แก่

1. นักการตลาดเตรียมสร้างโอกาสทองจากการ “ช้อปเอาคืน” / Be ready for upcoming “Revenge shopping”

จากความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งออนไลน์ และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 (COVID-19) ในประเทศไทย เป็นแรงผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาช้อปปิ้งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดลูกค้าด้วย โปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ทั้งรูปแบบฟรีค่าจัดส่ง หรือโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 เพื่อเพิ่มยอดขายในออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้บริโภคบางส่วน ที่ยังอยากจับจ่ายใช้สอยนอกบ้าน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและคลายความตึงเครียด เป็นการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคได้ออกมา “ช้อปเอาคืน” เพื่อชดเชยความรู้สึกที่อึดอัด และคลายความตึงเครียดผ่านการซื้อสินค้านอกบ้านร่วมกับคนในครอบครัว

 

เครื่องสำอาง สกินแคร์ ติดโผ 5 ช้อปลิสต์สูงสุด

2. ผู้หญิงอย่าหยุดสวย “คืนความสุขให้ผู้หญิง” ด้วยการช้อปปิ้ง / Refresh the happiness of women

จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงต้องแบกภาระที่หนักหน่วง ทั้งการทำงาน เลี้ยงลูกน้อย หรือแม้แต่การดูแลงานบ้าน แต่ยังคงมีความต้องการใช้จ่ายเพื่อหาความสุขให้ตัวเองเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ เห็นได้จากการที่ กลุ่มผู้บริโภคเพศหญิง มีแนวโน้มความต้องการซื้อสินค้า ประเภท เครื่องสำอาง สกินแคร์ ที่เพิ่มสูงขึ้นติดอันดับ 1 ใน 5 สินค้าต้องการมากที่สุด เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกจากบ้าน แต่คนกลุ่มนี้ก็ยังอยากให้ตัวเองดูสวยอยู่ตลอดเวลา

อีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่น่าจับตา คือความต้องการใช้จ่ายในสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และเครื่องเสียง เพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะสินค้าเหล่านี้สามารถกระตุ้นรายจ่ายและเติมเต็มความสุขให้ผู้หญิงได้เป็นอย่างดี

นางสาวชุลิกา สายศิลา ผู้จัดการด้านงานวางแผนกลยุทธ์ บริษัท สไปซี่ เอช จำกัด กล่าวว่า จากผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยในรอบนี้ หากจำแนกเป็นช่วงอายุ 20-29 ปี ผู้บริโภคในกลุ่มนี้จะเน้นการหาความสุขให้กับตัวเอง ด้วยการใช้จ่ายสินค้าเพื่อดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มสกินแคร์และเครื่องสำอาง ยังคงเป็นสินค้ายอดนิยมและมาแรงอย่างมาก

ในส่วนสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งของจำเป็น ซึ่งสามารถนำมาใช้ร่วมกับงานที่ตัวเองทำและสร้างความสุขให้กับตัวเองได้อีกด้วย

ภาค

ขณะที่ผู้บริโภคในกลุ่ม 40-49 ปี ยังคงมีการใช้จ่ายเพื่อดูแลครอบครัวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเทอมบุตร-หลาน การซื้อนมให้ลูก การดูแลพ่อแม่สูงวัย เป็นต้น แต่ยังคงใช้จ่ายแบบไม่ประมาทรัดเข็มขัดรายจ่ายมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงและการออมเงิน รองรับกับความไม่แน่นอนทางสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน

หากแบ่งสัดส่วนตามภูมิภาคพบว่า ภาคอีสานยังมีความต้องการใช้จ่ายสูงสุด หลังจากภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ทำให้ผู้คนต่างกลับภูมิลำเนาและวางแผนอยู่แบบระยะยาว เกิดการซื้อสินค้าที่จำเป็นในการใช้ชีวิต หลังจากเจอพิษโควิดและต้องกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง

ส่วนในภาคกลางนั้นส่วนใหญ่หมดไปกลับสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น เครื่องนอน และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการทำงานและสร้างความสุขส่วนตัว

เมื่อดูการจับจ่ายในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล พบว่าสถานะทางการเงินมีแนวโน้มดีขึ้น และมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์เพื่อลดความตึงเครียด

 

Info 2

5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คนไทยใช้จ่ายมากที่สุดช่วงล็อกดาวน์

  • อาหาร 31%
  • สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน 14%
  • สมาร์ทโฟนและโทรศัพท์มือถือ 10%
  • อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต 7%
  • เครื่องสำอางและสกินแคร์ 5%

ข่าว

การติดตามข้อมูลข่าวสารของคนไทย

  • ติดตามข่าวสารบ้านเมือง 48% โดยเฉพาะข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโควิด มาตรการเยียวยาของภาครัฐ หรือแม้แต่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ในแต่ละวัน
  • ข่าวการเมือง การเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบ และการชุมนุมต่าง ๆ 24%
  • ประเด็นร้อนรอบโลก และความเป็นไปในต่างประเทศอย่างตาลีบัน บุกยึดประเทศอัฟกานิสถาน 3%
  • ข่าวคดีผู้กำกับโจ้ เศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo