Business

สปสช. จ่ายเงินเยียวยาฉีดวัคซีนแล้ว 3,626 ราย รวมกว่า 230 ล้านบาท

สปสช. สรุปยอดจ่ายเงินเยียวยาฉีดวัคซีนแล้ว 3,626 ราย รวมกว่า 230 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช.เปิดให้ผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564

เงินเยียวยาฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ ข้อมูลจนถึงวันที่ 27 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นคำร้องเข้ามาทั้งหมดจำนวน 4,065 รายและยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอีก 287 ราย โดยทางคณะอนุกรรมการระดับเขตได้พิจารณาจ่ายเงินชดเชยแล้ว 3,626 ราย และพิจารณาไม่จ่าย 1,152 ราย เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ รวมเป็นเงินที่จ่ายชดเชยเบื้องต้นไปแล้ว 230,798,800 บาท

สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณา จ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้น จะแบ่งเป็น 3 ระดับตามความรุนแรงของอาการไม่พึงประสงค์นั้น ๆ ดังนี้

ระดับ 1 มีอาการป่วยต้องรักษาต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท มีผู้รับเงินเยียวยาแล้ว 3,121 ราย

ระดับ 2 เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ หรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 2.4 แสนบาท มีผู้รับเงินเยียวยาแล้ว 41 ราย

ระดับ 3 กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท มีญาติผู้เสียชีวิตรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว 464 ราย

สปสช.1

เมื่อแยกตามเขต พบว่า สปสช.เขต 13 กทม. มีผู้ยื่นคำร้องเข้ามามากที่สุด จำนวน 1,045 ราย รองลงมาคือ สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ จำนวน 664 ราย และ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี 556 ราย

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากจำนวนเงินเยียวยาฉีดวัคซีน ที่จ่ายไป พบว่า สปสช.เขต 13 กทม. จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 25,685,500 บาท รองลงมาคือ สปสช.เขต 4 สระบุรี 22,708,500 บาท และ สปสช.เขต 6 ระยอง จ่ายเงินแล้ว 20,208,800 บาท

ขณะที่หลักการจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้น แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ สปสช.นั้น ไม่ไช่การพิสูจน์ถูกผิด หรือชี้ชัดว่าเป็นผลที่เกิดจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด แต่เป็นเงินเยียวยาเพื่อลดผลกระทบที่เกิดแก่ประชาชน เมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น

สปสช. 3

ทั้งนี้ แม้ว่าภายหลังจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าสาเหตุของอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากวัคซีน ก็ไม่เป็นเหตุให้เรียกเงินคืนแต่อย่างใด

ส่วนขั้นตอนการดำเนินการของ สปสช.นั้น หลังจากได้รับคำร้องแล้ว จะมีคณะอนุกรรมการในระดับเขต ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และตัวแทนภาคประชาชน เป็นผู้พิจารณาว่าจะจ่ายเงินเยียวยาหรือไม่ และจ่ายเป็นจำนวนเท่าใด ตามหลักฐานทางการแพทย์และระดับความหนักเบาของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น

เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo