สมาคมภัตตาคารไทย ร้องบิ๊กตู่ ขอขยายเวลาเปิดร้านอาหารเป็น 22.00น. พร้อมขอ อนุทิน เลื่อนใช้ COVID Free Setting จาก 1 ตุลาคมเป็นสิ้นเดือนตุลาคม
เพจเฟซบุ๊ก เพื่อนแท้ร้านอาหาร โพสต์กรณี สมาคมภัตตาคารไทย ทำจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เพื่อขอขยายเวลาเปิดร้านอาหาร และเลื่อนการบังคับใช้มาตรการ COVID Free Setting โดยระบุว่า
“ส.ภัตตาคารไทย ขอนายกฯ ขยับเวลาเปิดร้านนั่งกินได้ถึง 4 ทุ่ม
ตามที่มีกระแสข่าว ว่า ศบค.จะปรับเวลาเคอร์ฟิว จาก 20:00 น.เป็น 21:00 น.
ในประเด็นนี้ นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกส.ภัตตาคารไทย ได้ให้ความเห็นว่า ในมิติทางธุรกิจ การขยับเวลาปิดร้านเพิ่มขึ้นอีก 1 ชม. ไม่ได้เพิ่มโอกาสการขาย ให้กับร้านอาหารมากนัก
แต่หากจะขยับเพิ่มเป็น 2 ชม. คือให้เปิดร้านรับลูกค้าได้จนถึงเวลา 22:00 น. จะช่วยให้ร้านอาหาร ร่วมถึงกิจการอื่น ๆ เพิ่มโอกาสการขายได้มากกว่า
โดยสมาคมภัตตาคารไทย ได้ทำจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ปรับลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 22:00 น.แทน รายละเอียดในจดหมายระบุว่า
“ตามที่ ศบค.ได้มีการผ่อนคลาย ให้ร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เปิดให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้ และกำหนดให้ร้านอาหาร เปิดจำหน่ายได้ถึงเวลา 20:00 น. ซึ่งต่อมาได้รับทราบจากกระแสข่าวว่า จะมีการพิจารณาขยับเวลาให้เปิดจำหน่ายได้ถึงเวลา 21:00 น.นั้น
ทางส.ภัตตาคารไทย ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการว่า การจำหน่ายอาหารในรอบเย็นนั้น ร้านอาหารส่วนใหญ่ ตัวเลขผลประกอบการลดลงเหลือเพียง 5-10% โดยเวลาปิดทำการ 20:00 น. เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง
กอปรกับช่วงเวลานี้เป็นฤดูมรสุม ทำให้เกิดฝนตกในช่วงเวลาเย็นบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อการค้าขาย โดยเฉพาะร้านตามบาทวิถี
ที่จำหน่ายตอนเย็น ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เวลาในการขายลดลงเหลือเพียง 1-2 ชั่วโมง
ทั้งนี้หากจะมีการขยับเวลาปิดร้านเป็น 21:00 น.ตามที่มีกระแสข่าวนั้น ขอเรียนให้ท่านทราบว่า ช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ไม่ได้เพิ่มโอกาสทางการขายมากขึ้นแต่อย่างใด เมื่อเทียบกับการขยับเวลาเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมง
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการ ต่างแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากผลกระทบที่ปฏิบัติตามมาตรการบังคับของ ศบค. หากศบค.จะพิจารณาเพิ่มเวลา เปิดทำการค้าขายให้ถึงเวลา 22:00 น.จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าขายได้มากขึ้น
จึงเรียนมาเพื่อ ท่านนายกรัฐมนตรี จะกรุณาพิจารณาปรับเพิ่มเวลา ให้ร้านอาหารเปิดทำการรับลูกค้านั่งรับประทานในร้านได้จนถึงเวลา 22:00 น.เป็นอย่างน้อย”
นอกจากนี้ ส.ภัตตาคารไทย ยังได้ทำจดหมายถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ขอให้พิจารณาเลื่อนการบังคับใช้มาตรการ Covid Free Setting ออกไปจนถึงสิ้นเดือน เนื่องจากร้านผู้ประกอบการจำนวนมากยังไม่พร้อม โดยเฉพาะมาตรการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มและการตรวจ ATK โดยในจดหมายรายละเอียดบางส่วนระบุว่า
สมาคมภัตตาคารไทย วอนเลื่อน COVID Free Setting
“ตามที่ส.ภัตตาคารไทย ได้เคยมาร่วมประชุมกับทางกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 จนเป็นที่มาของมาตรการผ่อนคลาย ให้นั่งกินอาหารได้เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ภายใต้การระมัดระวังขั้นสูง Universal Prevention COVID-19
และภายใต้การขอความร่วมมือ ให้ใช้มาตรการ COVID Free Setting
สำหรับร้านอาหารที่มีความพร้อม คือ ทั้งสถานประกอบการ ต้องปฏิบัติตามมาตรการ านสาธารณสุข และพนักงานทุกคนต้องฉีดวัคซีน ครบ 2 เข็ม หรือมีการสุ่มตรวจ ATK พนักงานกลุ่มเสี่ยง
ทั้งนี้ ในกรณีของการฉีดวัคซีนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรร้านอาหาร ตามที่สมาคมภัตตาคารไทยได้ร้องขอไปจำนวน 2 รอบ คือรอบแรก 37,000 คน และรอบที่ 2 จำนวน 63,000 คน ซึ่งจำนวน 63,000 คนในรอบที่ 2 อยู่ในขั้นรอฉีดเข็ม 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางเดือนตุลาคม โดยเป็นบุคลากรร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด
ส่วนมาตรการให้ตรวจ ATK ปัจจุบันยังพบว่ามีอุปสรรคในด้านราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ประกอบการ ยังไม่พร้อมเพิ่มภาระต้นทุนในส่วนนี้ และการดำเนินการแจกจ่าย ATK ของทางภาครัฐ ก็ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ
ขณะที่สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ว่ายังมีความไม่พร้อม ในการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting หากจะมีการบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยเฉพาะในส่วนของมาตรการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และมาตรการตรวจ ATK พนักงานกลุ่มเสี่ยง
สมาคมภัตตาคารไทย ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม จึงใคร่ขอความกรุณามายังท่านรองนายกฯ
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาดำเนินการเลื่อนการบังคับใช้ มาตรการ COVID Free Setting ออกไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับรอบการฉีดวัคฉีดเข็ม 2 และเพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาเพิ่มเติม ในการเตรียมจัดหาชุดตรวจ ATK เนื่องจากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจำนวนมาก ประสบปัญหาทางการเงิน เพราะไม่สามารถเปิดกิจการได้ตามปกติ ตามมาตรการควบคุมการระบาด และเพิ่งจะกลับมาให้บริการ นั่งรับประทานในร้านได้เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา”
ต้องรอดูว่าที่สุดแล้ว ทางศบค.จะตัดสินใจอย่างไร ทั้งในเรื่องการปรับเวลาเคอร์ฟิว และการบังคับใช้มาตรการ COVID Free Setting
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ศบค.’ ไฟเขียว!! ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน ขยับเคอร์ฟิว เปิดฟิตเนส
- ล็อกดาวน์-โควิด ทุบร้านอาหารปิดตัว ‘เดอะพิซซ่า’ ลั่นยิ่งใหญ่ยิ่งเจ็บ วอนร่วม ‘คนละครึ่ง’
- ‘ผู้ว่าฯอัศวิน’ เอาจริง! เตือนร้านอาหารทั่วกรุงฝ่าฝืนสั่งปิดทันที!