Business

‘คิง เพาเวอร์’ จัดอบรมออนไลน์ ‘บริหารสนามฟุตบอลอย่างมืออาชีพ’ รับโครงการสร้างสนามฟุตบอลทั่วไทย

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เดินหน้าสร้างสนามฟุตบอลทั่วไทยปีที่ 4 จัดอบรมบริหารสนามฟุตบอลอย่างมืออาชีพ แบบนิวนอร์มอลให้ชุมชนทั่วประเทศ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นสนับสนุน ศักยภาพด้านกีฬาฟุตบอลของคนไทย ผ่านการสนับสนุนการสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมจำนวน 100 สนาม ภายใน 5 ปี ภายใต้โครงการ “100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” ในชุมชนทุกภาคทั่วประเทศไทย เพราะมองเห็นว่า  การมีสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานสากล จะช่วยส่งเสริม และผลักดันให้เยาวชนไทยได้พัฒนาทักษะ ในการเล่นกีฬาฟุตบอลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งยัง เป็นพื้นที่ส่วนรวม ที่สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนโดยรอบ

100 สนามฟุตบอล2

อย่างไรก็ดี การที่จะทำให้สนามฟุตบอลหญ้าเทียมคงมาตรฐานสูงสุด และอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืนนั้น ต้องคำนึงถึงการดูแล การบริหารจัดการ และการบำรุงรักษาสนามให้ได้มาตรฐานด้วย จึงเป็นที่มาของ “โครงการอบรมหลักสูตรบริหารจัดการสนามฟุตบอลหญ้าเทียมอย่างมืออาชีพ” ปีที่ 4 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการดูแลสนามฟุตบอล ให้กับโรงเรียน และชุมชน 18 แห่ง ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศ

ในปี 2564 การอบรมดังกล่าว จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันซูม เพื่อสอดรับกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สนามฟุตบอล

นางสาวกรอบแก้ว ปันยารชุน รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ กล่าวว่า คิง เพาเวอร์ ยังคงขับเคลื่อนด้านความรับผิดชอบต่อสังคม สู่ความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้ได้ปรับรูปแบบการจัดอบรมสร้างความรู้ ในการบริหารสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแบบมืออาชีพ เป็นรูปแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัย และรักษาระยะห่างของผู้เข้าร่วมการอบรม  แต่ยังคงเนื้อหาการนำเสนอไว้อย่างเข้มข้น เพื่อให้โรงเรียน และชุมชน ที่เข้ารับการอบรม จะได้นำเทคนิคต่าง ๆ ไปบริหารจัดการได้อย่างถูกวิธี

หลังจากที่สร้างสนามฟุตบอลเสร็จแล้ว ทาง คิง เพาเวอร์ ยังคงติดตามดูแลสภาพสนามทุกแห่ง โดยจะจัดส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดูแลบำรุงรักษาสนามทุกๆ 3 เดือนเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 6 ปี  ซึ่งภายในเดือนมีนาคม 2565 จะมีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมสีน้ำเงิน ก่อสร้างเสร็จจำนวน 18 แห่ง ขนาด 33 x 53 เมตร (7 คนเล่น) ตามมาตรฐานสากล

สนามฟุตบอล

สำหรับการอบรมออนไลน์ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาทั้งการออกแบบ ก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม อาทิ ดร.พงษ์เทพ นามศิริ ผู้อำนวยการส่วนงานบริหารวิศวกรรมและสาธารณูปโภค และทีมผู้ดำเนินงานก่อสร้าง จากบริษัท Soccer Pro จำกัด และโค้ชจุ่น อนุรักษ์ ศรีเกิด อดีตโค้ชทีมชาติไทย ที่มาเผยเคล็ดลับการฝึกซ้อม ให้ประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนจากชุมชนรุ่นก่อน ๆ ที่ได้รับมอบสนามฟุตบอลไปแล้ว มาบอกเล่าประสบการณ์ ทั้งด้านงานระบบ การดูแลรักษาสนามหลังใช้งาน ข้อห้ามต่าง ๆ และการพัฒนาพื้นที่บริเวณสนามโดยรอบ

สนามฟุตบอล

นางสุพรรณา แก้วเพิ่มพูน ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล เล่าว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กด้อยโอกาส และเด็กกำพร้า ฐานะยากจน จำนวนกว่า 800 คน โดยเป็นโรงเรียนประจำแบบกินนอน และกลับบ้านเดือนละ 1 ครั้ง แต่ยังมีเด็กอีกจำนวนหนึ่งที่ผู้ปกครองไม่สามารถมารับกลับบ้านได้ เนื่องจากมีฐานะยากจน

ดังนั้น เป้าหมายหลักที่ทางโรงเรียนทำเรื่องขอสนามฟุตบอลหญ้าเทียม เพราะอยากให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่เล่นกีฬา และทำกิจกรรมร่วมกัน ให้เขารู้สึกว่า ตัวเองมีคุณค่า และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ในเบื้องต้นทางโรงเรียนได้เตรียมแผนรองรับในการใช้สนามฟุตบอล โดยมีการแบ่งทีม แบ่งหน้าที่ สำหรับการดูแลสนามฟุตบอลแล้ว และจะนำเทคนิคต่าง ๆ ที่ได้จากการอบรมไปปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป

สนามฟุตบอล

ขณะที่ นายสุกิจ จันทบาล ผู้อำนวยการโรงเรียนปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า เมื่อเด็ก ๆ ทราบข่าวว่าโรงเรียน จะได้รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมจากคิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งแรกของจังหวัดอำนาจเจริญ ทุกคนตื่นเต้น และดีใจกันมาก

ทางโรงเรียนมีทั้งทีมฟุตบอลชาย และฟุตบอลหญิง และเคยไปแข่งจนได้รับรางวัลในระดับจังหวัด และระดับภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเชื่อว่าถ้าเด็ก ๆ ได้ฝึกซ้อมในสนามฟุตบอลจริง ๆ ที่เป็นมาตรฐานสากล จะช่วยพัฒนาฝีเท้าของพวกเขาให้ไปได้ไกลกว่าเดิม พร้อมผลักดันให้สนามหญ้าเทียมแห่งนี้ เป็นศูนย์รวมของการจัดการแข่งขันกีฬาทุกระดับในจังหวัดอำนาจเจริญ

“การอบรมครั้งนี้ ผมได้เก็บเกี่ยวความรู้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการในการดูแลรักษาสนาม เพราะอยากให้สนามแห่งนี้อยู่คู่กับชาวอำนาจเจริญไปอีกนานแสนนานครับ”

สนามฟุตบอล

ทางด้าน โค้ชจุ่น อนุรักษ์ ศรีเกิด อดีตโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจแทนทุกโรงเรียนและชุมชน ที่ได้รับสนามฟุตบอลที่ดี และได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งสนามฟุตบอลที่ดี จะช่วยฝึกเด็ก ๆ ที่เอาจริงเอาจังกับกีฬาฟุตบอลได้รวดเร็วขึ้น การเลี้ยง การส่งลูกฟุตบอลก็จะดียิ่งขึ้น

“อยากฝากให้ผู้ดูแลทีม โค้ช ควรหาแมทช์แข่งขันให้เด็ก ๆ ได้ออกไปแข่งขันจริงอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้พวกเขาได้สัมผัสประสบการณ์จริง เรียนรู้ข้อดีข้อเสียของทีม การมีน้ำใจนักกีฬา และกลับมาพัฒนาฝีเท้าให้เก่งกว่าเดิม เตรียมการฝึกร่างกายให้แข็งแรง มีสมาธิ มีระเบียบวินัย”

“รับรองว่าความฝันในการได้ระดับแชมป์ต้องมาถึงสักวัน และขอให้ทุกโรงเรียน ชุมชน ที่ได้รับสนามฟุตบอลหญ้าเทียมจากคิง เพาเวอร์ ช่วยกันรักษา และใช้ประโยชน์จากสนามแห่งนี้ให้มากที่สุดครับ”

สนามฟุตบอล

โรงเรียนและชุมชน 18 แห่ง ที่ได้รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมปีที่ 4

  • โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จังหวัดอุดรธานี
  • โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร จังหวัดหนองบัวลำภู
  • โรงเรียนปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ
  • ชุมชนเทศบาลตำบลดอนตาลผาสุก จังหวัดมุกดาหาร
  • โรงเรียนป่าเด็งวิทยา จังหวัดเพชรบุรี
  • โรงเรียนวัดด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
  • โรงเรียนธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
  • โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) จังหวัดนนทบุรี
  • โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลกรับใหญ่ จังหวัดราชบุรี
  • โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล
  • โรงเรียนเทศบาล 1 (สังขวิทย์) จังหวัดตรัง
  • ชุมชนบ้านสักลอ จังหวัดพะเยา
  • โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี
  • โรงเรียนท่าข้ามวิทยาคม จังหวัดแพร่
  • โรงเรียนศรีนคร จังหวัดสุโขทัย
  • ชุมชนบ้านป่าซ่าน จังหวัดพิษณุโลก
  • โรงเรียนมัธยมกัลยานิวัฒนาเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดเชียงใหม่
  • ชุมชนตำรวจกองปราบปราม จังหวัดกรุงเทพมหานคร

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ภายใต้คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้ที่ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และยูทูบ “King Power Thai Power พลังคนไทย”

#KingPowerThaiPowerพลังคนไทย #WeBelieveInThaiPower #เชื่อในพลังคนไทย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo