Business

ไปต่อ! รฟม.เร่งประมูลรถไฟฟ้า ‘สายสีส้ม’ หลังศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี

รฟม.เร่งประมูลรถไฟฟ้า”สายสีส้ม” หลังศาลจำหน่ายคดี ลุ้นต.ค.เปิดขายซองอีกครั้ง คาดมี.ค. 65 ได้ผู้ร่วมทุน  ส่วน “สีม่วงใต้” ซื้อซองแล้ว 8 ราย ทั้งไทย-ต่างชาติ พร้อมโชว์ผลงานควงามคืบหน้างานก่อสร้างท่ามกลางสถานการณ์โควิดในแต่ละเส้นทาง 

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)  และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูนราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ว่าหลังจากที่ รฟม.เปิดขายซองเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม -7 ตุลาคม 2564 ปัจจุบันมีเอกชนสนใจซื้อเอกสาร 8 ราย เป็นเอกชนไทย 6 ราย และต่างชาติ 2 ราย

ทั้งนี้ รฟม.กำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอได้วันที่ 8 ตุลาคม 2564 โดยรฟม.จะใช้เวลาพิจารณาถึงปลายเดือนธันวาคม 2564 คาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้าง งานโยธาทั้ง 6 สัญญา ภายในเดือนมกราคม 2565 ทั้งนี้ รฟม.ยืนยันว่า การประกวดราคาครั้งนี้ ดำเนินการตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ไม่ได้กีดกันบริษัทต่างชาติ

รถไฟฟ้า 210820 0

ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ รฟม.ได้ยกเลิกประกวดราคา และอยู่ระหว่างเตรียมการประกวดราคาครั้งใหม่ ปัจจุบันเปิดรับฟังความเห็นเอกชนไปแล้ว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ ไม่สามารถจัดประชุมคณะกรรมการ ม.36 เพื่อพิจารณาร่างทีโออาร์ใหม่ได้ เพราะการประชุมด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่บังคับใช้กับกรณีโครงการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน

“รฟม.ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ให้เข้าร่วมการใช้ข้อตกลงคุณธรรม เราจึงมีหนังสือไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อบรรจุสายสีส้มเข้าข้อตกลงคุณธรรม และกำลังรอหนังสือตอบกลับ เพื่อนำตัวแทนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ จากนั้น จะประชุมคณะกรรมการ ม.36 และพิจารณาทีโออาร์ครั้งใหม่” นายภคพงศ์ กล่าว

จากการประเมินกรอบการดำเนินงาน คาดว่าเมื่อเข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรมได้แล้ว จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการ ม.36 พิจารณาร่างทีโออาร์ฉบับใหม่ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน และออกประกาศเชิญชวนเอกชน เบื้องต้นจะเชิญชวนเอกชนภายในเดือนตุลาคมนี้ ให้เวลาเอกชนทำข้อเสนอ 60 วัน คาดว่าปลายไตรมาส 1 ปี 2565 ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 จะได้เอกชน ร่วมลงทุนแต่ทั้งนี้ขึ้นกับสถานการณ์โควิด -19

นายภคพงศ์  กล่าวว่ารฟม. ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะกำกับการดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าให้คืบหน้าต่อไป โดยอาศัยการรณรงค์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทั้งต่อตนเอง และต่อสังคมส่วนรวม และการควบคุมให้ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดต่างๆ อย่างเคร่งครัดควบคู่กันไป ส่งผลให้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง มีความก้าวหน้าโดยรวม 81.40% (ณ สิ้นก.ค.) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย- มีนบุรี มีความก้าวหน้าโดยรวม 78.77% (ณ สิ้นก.ค.) คาดว่าทั้งสองโครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2565

YEL สถานีศรีกรีฑา 0 e1629436012995

YEL สถานีลาดพร้าว scaled e1629436062609
default

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีความก้าวหน้างานโยธา 84.44% (ณ สิ้นเดือนก.ค.64) เมื่อรวมกับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการ จะกลายเป็นอีกหนึ่งโครงข่ายสำคัญที่เชื่อมต่อกรุงเทพมหานคร ในแนวฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก เมื่อเปิดให้บริการได้ตามแผนในปี 2570

PIL สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ e1629436105621

นอกจากนี้ รฟม. ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการ และมีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2570 อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) จะเป็นการต่อขยายแนวเส้นทางจากรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ที่สถานีเตาปูน (เขตบางซื่อ) ลงมาทางทิศใต้ของกรุงเทพมหานคร และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย – ลำสาลี (บึงกุ่ม) ที่มีโครงสร้างร่วมกันกับโครงสร้างทางด่วน ของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

ORE 3 e1629436118287

ส่วนของภารกิจการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเขตเมืองหลักภูมิภาค รฟม. มีความพร้อมในการผลักดันโครงการในระยะแรกในพื้นที่ 4 จังหวัด รวมจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง, โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคี, โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว ช่วงตลาดเซฟวัน -สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ และโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดพิษณุโลก สายสีแดง ช่วงมหาวิทยาลัยพิษณุโลก-ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก เพื่อเป็นการรองรับแผนพัฒนาระบบขนส่ง และระบบโลจิสติกส์อื่นๆ ของกระทรวงคมนาคม ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจองค์รวมของประเทศไทยไปจนถึงระดับภูมิภาคอาเซียน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight