สมาคมศูนย์การค้าไทย วอนภาครัฐ ผ่อนปรนให้เปิดธนาคาร สถาบันการเงิน และธุรกิจสื่อสาร ไอที และร้านเบ็ดเตล็ดที่จำเป็น ในศูนย์การค้า ชี้ลดความแออัด อำนวยความสะดวกประชาชน
นายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาความแออัดในการให้บริการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีลูกค้าต่อคิวใช้บริการธนาคารเป็นจำนวนมาก จึงมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว และมุ่งมั่นลดความแออัดในการใช้บริการให้ประชาชน
ดังนั้น สมาคมฯ จึงขอเสนอภาครัฐให้ทบทวนการเปิดให้บริการ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธนาคาร ธุรกิจสื่อสาร และร้านเบ็ดเตล็ดรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ในศูนย์การค้า เพื่อกระจายช่องทางการใช้บริการ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
นอกจากนี้ ศูนย์การค้ายังมีมาตรการดูแลพื้นที่ของตนเอง ให้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนมากที่สุด โดยธนาคาร ธุรกิจไอที และร้านเบ็ดเตล็ด ก็มีมาตรการเข้มข้น ผนวกกับศูนย์การค้าก็มีมาตรการที่เข้มข้นสูงสุดอีกระดับ ซึ่งถือเป็นการ Double Protection และปลอดภัยกว่าสำหรับลูกค้า อีกทั้งยังได้มีการทบทวนแผนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรการให้แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ เห็นได้จากสถิติการติดเชื้อ ของพนักงานในศูนย์การค้านั้น พบว่ามีอัตราส่วนที่ต่ำมาก เพราะมีมาตรการในการควบคุมที่ชัดเจน พร้อมทั้งมาตรการป้องกันเชิงรุก Intensive Tracking บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพในการแยกกลุ่มเสี่ยง-กักตัว 14 วัน ดูอาการ-เปลี่ยนพนักงานชุดใหม่ เพื่อควบคุมความเสี่ยง ตามขั้นตอนของ กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
สมาคมศูนย์การค้าไทย จัดทำ “แผนแม่บทมาตรการ ธนาคารและธุรกิจสื่อสาร สะอาด มั่นใจ” กว่า 26 ข้อปฏิบัติ ดังนี้
- พนักงานทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (Sinovac 2 เข็ม, Astrazeneca หรือวัคซีนอื่นๆ อย่างน้อย 1 เข็ม)
- ก่อนเข้าทำงาน พนักงานทุกคนต้องตรวจหาเชื้อโดย Antigen Test Kit และมีผลเป็นลบ โดยผลตรวจต้องไม่เกิน 3 วัน หลังจากนั้นจะต้องตรวจหาเชื้อโดยวิธี Antigen Test Kit เป็นประจำทุก 2 สัปดาห์
- บันทึก และประเมินประวัติของพนักงานทุกคน ทุกวัน
- เข้มงวด ห้ามพนักงานจับกลุ่ม หรือนั่งทานอาหารร่วมกัน
- พนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ หน้ากากอนามัยและ Face shield ตลอดการให้บริการ
- ส่งเสริมให้ลูกค้าลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้า ผ่านช่องทางออนไลน์
- จำกัดจำนวนคน 1 คนต่อ 5 ตร.ม. และลดความแออัด 100% Social Distancing
- จัดให้มีเจ้าหน้าที่นับและควบคุมจำนวนลูกค้าหรืออุปกรณ์ในการนับจำนวนลูกค้าให้เป็นไปตามกำหนด
- ส่งเสริมการทำธุรกรรม ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ e-Banking
- บริการถุงมือพลาสติก สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ
- ธนาคารงดให้บริการแลกเหรียญ และธนบัตรย่อย เพื่อลดการสัมผัส
- มีพนักงานจัดระบบคิวหน้าร้าน
- กำหนดจุดรอคิวในบริเวณที่กำหนด หากบริเวณหน้าร้านไม่มีพื้นที่ ให้ทางร้านแจกบัตรคิวพร้อมขอเบอร์โทรลูกค้า แล้วให้ลูกค้าไปนั่งรอที่ Rest Area ที่ทางศูนย์ฯ จัดไว้
- กำหนดการจัดคิว และมีสัญลักษณ์เว้นระยะอยู่ข้างหน้าตู้ ATM หรือ e-Booth ห่าง 1-2 เมตร
- ตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้าทุกคนอย่างเคร่งครัดทุกครั้งก่อนเข้าพื้นที่
- ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ทั้ง ก่อน-หลัง เข้ารับบริการ
- ธนาคารจัดเจลแอลกอฮอลล์ บริเวณเคาน์เตอร์ให้บริการ 2 ช่อง ต่อ 1 ขวด
- กำหนดเส้นทางเดินของลูกค้าในร้านค้า
- สำหรับร้านค้า จำกัดการรับลูกค้าและผู้ติดตามรวมแล้วไม่เกิน 2 คนต่อกลุ่ม
- จัดระเบียบการเข้าคิวแคชเชียร์และจุดบริการต่างๆ กำหนด ระยะห่าง 1-2 เมตร
- ส่งเสริมการชำระเงินแบบ Cashless Payment
- สำหรับอุปกรณ์ Demo ต้องเช็ดน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากลูกค้าสัมผัสทันที
- ทำความสะอาดบริเวณจุดที่มีการสัมผัสร่วมสูง ทุกๆ 30 นาที
- ทำความสะอาด และพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ พื้นที่ร้านค้า อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกวันหลังปิดให้บริการ
- ทำความสะอาด Big Cleaning อบโอโซนฆ่าเชื้อ ทันทีหากพบว่ามีผู้ติดเชื้อมาใช้บริการ และพนักงานที่มีความเสี่ยงสูง ต้องกักตัว 14 วันเพื่อดูอาการ และเปลี่ยนพนักงานชุดใหม่ทั้งหมด
- มี Counter Shield ในจุดให้บริการลูกค้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ล็อกดาวน์ – เคอร์ฟิว ถล่มค้าปลีกสูญ 2.7 แสนล้าน ปิดนับแสนร้าน ตกงานกว่าล้านคน
- จ่อตกงานนับล้าน เอสเอ็มอี 2 แสนรายกำลังเจ๊ง สมาคมผู้ค้าปลีกไทย กระทุ้งรัฐชง 4 มาตรการช่วยด่วน
- สมาคมผู้ค้าปลีกไทย วอนพักหนี้ 6 เดือน เพิ่มวงเงิน ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ เป็น 1 แสน