ร่างกฎหมายล้มละลาย ผ่าน ครม. อนุมัติลูกหนี้ SMEs เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ เพิ่มยอดหนี้ขอฟื้นฟูเป็น 50 ล้านบาท ลดขั้นตอนและใช้ระยะเวลาน้อยลง
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ว่า สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 หรือ ร่างกฎหมายล้มละลาย ในส่วนกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) หมวด 3/2 ยังไม่สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ เช่น
1. จำนวนหนี้ที่ขอฟื้นฟูกิจการไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
2. ลูกหนี้ที่สามารถยื่นฟื้นฟูกิจการได้ จำกัดเฉพาะลูกหนี้ที่มีลักษณะเป็น SMEs ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) หรือจดทะเบียนกับหน่วยงานอื่นของรัฐเท่านั้น 3.
3. เงื่อนไขการยื่นขอฟื้นฟูกิจการมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ได้อย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพ และไม่ตกเป็นบุคคลล้มละลาย ครม.จึงมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ในส่วนกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
พร้อมกันนี้ ได้เร่งผลักดันให้เป็นกฎหมาย ที่ต้องปฏิรูปในระยะเร่งด่วน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีหลักการสำคัญในการสร้างกลไกให้ลูกหนี้ที่เป็น SMEs สามารถเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ เช่นเดียวกับการฟื้นฟูกิจการปกติ ลดขั้นตอนและใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่า โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. เพิ่มเติมจำนวนหนี้ของลูกหนี้ ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด หรือนิติบุคคลอื่น ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ที่สามารถร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการได้ จาก “จำนวนไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท” เป็น “ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท” เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
การเพิ่มจำนวนหนี้ดังกล่าว อ้างอิงจากข้อมูลเชิงสถิติระหว่างปี 2560-2563 คดีที่ศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอลูกหนี้ มีจำนวนหนี้มากกว่า 50 ล้านบาท กว่า 90% ของคดีทั้งหมด
2. กำหนดกระบวนพิจารณา เกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ที่มีลักษณะเป็น SMEs ดังนี้
- ยกเลิกเงื่อนไขที่กำหนดให้ลูกหนี้ที่เป็น SMEs ต้องขึ้นทะเบียนกับ สสว. หรือที่จดทะเบียนกับหน่วยงานอื่นของรัฐ จึงจะสามารถร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการได้
- กำหนดให้ลูกหนี้สามารถยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้ โดยที่ยังไม่ต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเสนอศาลเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และให้มีการพักชำระหนี้ เมื่อศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ ลูกหนี้สามารถยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ก่อนศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการได้
3. กำหนดให้มีกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการแบบเร่งรัด ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการ ได้แก่ ลูกหนี้ที่เป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่และลูกหนี้ที่เป็น SMEs สามารถเลือกยื่นคำร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการแบบเร่งรัดได้ โดยแนบแผนพร้อมหลักฐานแสดงว่า เจ้าหนี้ได้มีมติยอมรับแผนแล้ว (prepackaged plans) ต่อศาล โดยให้ศาลพิจารณาคำร้องขอดังกล่าวเป็นการด่วน
แต่หากศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอ เพราะแผนไม่เข้าหลักเกณฑ์ ลูกหนี้อาจยื่นคำร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการอีกได้ โดยไม่ติดเงื่อนไขข้อห้ามเรื่องระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่ศาลยกคำร้องขอกระบวนพิจารณา เกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการแบบเร่งรัด
กฎหมายฉบับนี้ จะเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สำคัญ ในการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน .shได้รับโอกาสฟื้นฟูกิจการ และไม่ตกเป็นบุคคลล้มละลาย อันจะเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘วิกฤติโควิด’ ทำ ‘เศรษฐกิจไทย’ ทรุด เตือน ‘เอสเอ็มอี’ 80% อาจล้มละลาย
- เศรษฐกิจไทย เดือนพ.ค.วูบ โควิดฉุดบริโภค-ลงทุนร่วงหนัก ท่องเที่ยวไม่ฟื้น
- ‘รวยกระจุก จนกระจาย’ เมื่อเศรษฐกิจไทยฟื้นแบบ K-Shaped