Business

‘โอสถสภา’สร้างโรงงานเครื่องดื่ม ‘เมียนมา’ 2.4 พันล้าน ย้ำเบอร์ 1 ตลาดชูกำลัง

“โอสถสภา”เดินหน้ารุกธุรกิจต่างประเทศ ลุยสร้างโรงงานเครื่องดื่มใหม่ในเมียนมา มูลค่า 2,400 ล้านบาท เริ่มผลิตไตรมาส 4 ปีหน้า ย้ำแชมป์เบอร์หนึ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และบริษัท ลอย เฮง จำกัด ผู้นำธุรกิจน้ำดื่มและเครื่องดื่มใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จัดพิธีเปิดหน้าดินเพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมติละวา กรุงย่างกุ้ง เพื่อขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ

โอสถสภา เมียนมา

นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าโอสถสภา มีเป้าหมายขยายการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในตลาดหลัก ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตสูง ด้วยเห็นถึงการเติบโตของตลาดค้าปลีกเมียนมา ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี

บริษัทจึงได้ร่วมกับบริษัท ลอย เฮง จำกัด พันธมิตรทางธุรกิจในเมียนมา ก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมติละวา เพื่อรองรับการเติบโตและสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวเมียนมา โดยนับเป็นโรงงานผลิตแห่งแรกของโอสถสภาในเมียนมา และเป็นความก้าวหน้าสำคัญเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำตลาดธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของโอสถสภา

โอสถสภา เมียนมา

สำหรับโรงผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ดังกล่าว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 83 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมติละวา โซนบี กรุงย่างกุ้ง ดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท โอสถสภา เมียนมา จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 85% และบริษัท ลอย เฮง จำกัด 15% มูลค่าการลงทุน  2,400 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่าโรงงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2562 โดยจะผลิตเครื่องดื่มของโอสถสภาเพื่อจัดจำหน่ายในตลาดเมียนมา ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและการจัดจำหน่าย รวมถึงตอบสนองความต้องการของตลาดเมียนมาได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม ประกอบกับการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างบริษัท ลอย เฮง จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจร่วมกันมายาวนาน ทั้งหมดนี้ช่วยสนับสนุนให้โอสถสภาเติบโตที่ดีและมีสัดส่วนมูลค่าค้าปลีกเครื่องดื่มชูกำลังเป็นอันดับหนึ่งของเมียนมา โดยมีส่วนแบ่งตลาด 38% บริษัทคาดว่าเมื่อโรงงานผลิตแห่งใหม่ในเมียนมาเริ่มดำเนินงานจะทำให้โอสถสภา มีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น เนื่องจากการผลิตสินค้าเอง รวมทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะขยายเส้นทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ เพิ่ม เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

“การดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นทำการตลาดในท้องถิ่น จะทำให้โอสถสภาสามารถขยายส่วนแบ่งทางการตลาดและมีการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคตตามเป้าหมาย” นางวรรณิภา กล่าวสรุป

Avatar photo