นายกฯกดปุ่มเที่ยวปฐมฤกษ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน พร้อมให้บริการประชาชนฟรี นาน 4 เดือน เริ่มวันนี้ถึงปลายเดือนพ.ย.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานในพิธีเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการเดินรถโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล และสถานีกลางบางซื่อ (ผ่านระบบ Video Conference) ให้ประชาชนทดลองใช้ฟรี ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ ปลายปี 2564
โดยรถไฟสายดังกล่าวเป็นการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางกับระบบขนส่งอื่น ๆ ของประเทศอย่างเป็นระบบครบวงจรทั้งบางบก อากาศ และทางถนน เพื่อให้ประชาชนเดินทางออกสู่ภูมิภาคและเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้แทนสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น ร่วมเป็นสักขีพยานครั้งนี้
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวรู้สึกยินดีที่ได้ทำพิธีเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ทั้งช่วงบางซื่อ -รังสิต และช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้บริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ ในเดือนพฤศจิกายน 2564 พร้อมย้ำว่ารัฐบาลได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 -2580) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางราง เป็นรูปแบบการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจึงได้ส่งเสริมผลักดันให้ระบบคมนาคมทางรางเป็นรูปแบบการเดินทางหลักของประเทศ
ที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งพัฒนาระบบคมนาคมทางรางในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง เพื่อช่วยยกระดับการเดินทางของประชาชนสะดวก รวดเร็ว ยิ่งขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล บรรเทาปัญหาการจราจร รวมถึงพัฒนารถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเดินทาง ขนส่ง และโลจิสติกส์ ในการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค ขณะเดียวกันก็รักษาสภาวะแวดล้อมของโลกในเรื่องของการลดการใช้พลังงานที่ทำให้เกิดมลพิษด้วย
สำหรับสถานีกลางบางซื่อ และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง นอกจากจะเป็นทางเลือกให้ประชาชนสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ปริมณฑล ได้โดยสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมโอกาสด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงสนับสนุนการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจตลอดแนวเส้นทาง
นอกจากนี้ ในระยะยาวจะขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมและการขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนควบคู่กันไปอย่างยั่งยืน นับเป็นก้าวย่างสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของการพัฒนาระบบรางและการพัฒนาประเทศตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งต่อไปจะมีการเร่งรัดการดำเนินการในพื้นที่ต่าง ๆ ในแต่ละภูมิภาคอีกด้วย
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้เร่งรัดการดำเนินโครงการให้มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ประชาชนได้ใช้บริการสถานีกลางบางซื่อและรถไฟชานเมืองสายสีแดงในวันนี้ ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤศจิกายน 2564 เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่นคง และยั่งยืน
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังจากนี้รถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน จะเปิดให้บริการฟรีแก่ประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม-ปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 หรือประมาณ 4 เดือน ก่อนจะให้บริการเชิงพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบต่อไป ส่วนเวลาการให้บริการจะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ของทุกวัน การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งเรื่องการเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ ที่ถือเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งจะเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการรถไฟ 4 ประเภท ได้แก่ 1. รถไฟชานเมืองสายสีแดง 2. รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) 3. รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และ 4. รถไฟทางไกล
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าสถานีกลางบางซื่อได้มีการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางเชื่อมต่อในพื้นที่กรงเทพฯ และปริมณฑล ให้กับประชาชน รถไฟชานเมืองสายสีแดง ยังได้มีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอีกหลายสาน อาทิ รถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมทั้งในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีแดง จะขยายไปตัดกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ส่วนราคาค่าโดยสาร กระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กรมการขนส่งทาราง (ขร.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ร่วมกันพิจารณาเรื่องนี้ หลักในการคำนวณค่าโดยสารเริ่มต้นจากการคิดค่าแรกเข้าสถานี โดยอ้างอิงสูตรการคิดจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ค่าแรกเข้าอยู่ที่ 10 บาท คูณด้วยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) อยู่ที่ประมาณ 2 บาท รวมกันเป็นราคาค่าแลกเข้าอยู่ที่ 12 บาท ส่วนการเดินทางระหว่างสถานี คิดอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 2 บาท/สถานี
สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง มีระยะทางรวม 41 กิโลเมตร (กม.) มี 13 สถานี แบ่งเป็น ช่วงบางซื่อ-รังสิต 26 กม. จำนวน 10 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ สถานีจตุจักร สถานีวัดเสมียนนารี สถานีบางเขน สถานีทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่ สถานีการเคหะ สถานีดอนเมือง สถานีหลักหก และสถานีรังสิต คาดใช้ระยะเวลาเดินทางจากต้นทางถึงปลายทางประมาณ 25 นาที ส่วนช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน 15 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีบางซ่อน สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ศักดิ์สยาม’ ยันเปิดบริการรถไฟสายสีแดง 2 ส.ค.นี้
- สรุปแล้ว! ค่าโดยสาร ‘รถไฟฟ้าสายสีแดง’ เก็บอัตรา 14-42 บาท
- ยืนยันไทม์ไลน์เดิม ‘รถไฟฟ้าสายสีแดง’ ขึ้นฟรีเดือน ก.ค. เปิดจริงปลายปีนี้