“ซิซซา กรุ๊ป” เผย ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไม่เอื้อ อสังหาฯ โดยตรง แนะรัฐเปิดโอกาสการร่วมทุนกับภาครัฐ แก้กฎหมายเช่าที่ดินเป็น 90 ปี ให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดฯ 100%
นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เปิดเผยว่า หลังจากภาครัฐเปิดโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ในช่วงเกือบ 1 เดือนนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ว่า โมเดลดังกล่าว ช่วยเหลือผู้ประกอบการภูเก็ตได้มากน้อยเพียงใด เพราะยังไม่มีการประเมินจากภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาคท่องเที่ยว การที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาวันละประมาณ 1,000 คน จากโรงแรมทั้งหมดเกือบ 500,000 ห้อง ซึ่งต้องเป็นโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA Plus ถือว่าเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
แต่สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น แทบจะไม่เกิดประโยชน์ เพราะชาวต่างชาติหวังเข้ามาท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ไม่มีเจตนาเข้ามาลงทุนแต่อย่างใด ในขณะที่ชาวต่างชาติบางส่วน ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ไว้ที่ภูเก็ตก่อนหน้านี้ ก็ไม่สามารถเข้าพักได้ทีเดียว เนื่องจากต้องไปกักตัวในโรงแรม ในระบบที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้ก่อน 14 วัน
ดังนั้น จึงเป็นข้อจำกัด ที่ทำให้ชาวต่างชาติไม่อยากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงนี้ ซึ่งมองว่าภาครัฐ ยังขาดความพร้อม และการวางแผนที่รัดกุม
ทั้งนี้การเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” มีข้อดีคือได้ทดลองเปิดดู หากผลเสียมีมากกว่า ธุรกิจทั่วไปยังไม่ได้รับผลประโยชน์ และนักท่องเที่ยวยังถูกจำกัดการทำกิจกรรมอยู่ ก็ยังรู้สึกไม่เกิดผลดีกับภาพรวมของภูเก็ต ซึ่งมองว่า ต้องหยุดเรื่องการติดเชื้อ ให้ลดน้อยลงที่สุดก่อน หากนำวัคซีนที่มีคุณภาพเข้ามาได้ ก็จะสามารถเปิดทุกกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้
นอกจากนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงประเทศไทย และได้ยินข้อมูลด้านลบ เพราะในภูเก็ตยังมีการติดเชื้ออยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับการติดเชื้อไปด้วย ส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยและเป็นกังวล ทำให้รีบเดินทางกลับประเทศ ส่วนคนที่กำลังจะมาภูเก็ตก็รอดูท่าทีก่อน
“โมเดลนี้ไม่ถือว่าล้มเหลว ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อเริ่มทดลองและได้เห็นปัญหา ซึ่งก็ต้องนำปัญหานั้นมาแก้ไข แต่ไม่ทราบว่าภาครัฐมีการแก้ไขมากน้อยเพียงใด หากเปิดประเทศไม่ได้ แต่สามารถเปิดภูเก็ตได้ เพราะช่วงไฮซีซั่นก็ต้องมีชาวต่างชาติกลับมาอย่างแน่นอน”นายอรรถนพ กล่าว
ขณะที่แนวทางการแก้ปัญหานั้น มองว่า ควรจัดหาวัคซีนมาฉีดให้คนในภูเก็ตให้หมด และคลายกฎให้นักท่องเที่ยว รวมไปถึงทำประชาสัมพันธ์ระดับโลกว่าภูเก็ตมีอัตราการติดเชื้อต่ำ
ทั้งนี้ สิ่งที่ภาครัฐขาดไป คือ ความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้การประชาสัมพันธ์การเปิด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไม่เป็นไปในทิศทางที่จะเป็น แต่ก็ยังมีเวลาที่จะแก้ไขได้ ก่อนที่จะถึงช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลับมาภูเก็ตอย่างแน่นอน
ดัน ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ หนุนภาคอสังหาฯ ท่องเที่ยว
ดังนั้น จึงอยากจะฝากถึงรัฐบาล ในการช่วยภาคธุรกิจอสังหาฯ และท่องเที่ยว หากมีการทำประชาสัมพันธ์เมืองภูเก็ต ก็ควรที่จะดึงงบประมาณบางส่วนให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกจริง ๆ นักท่องเที่ยวมาแล้วรู้สึกประทับใจ ระบบราชการต้องมีความเป็นสากล รวมไปถึงควรตัดวงจรกลุ่มที่ขูดรีดชาวต่างชาติ และคนไทยด้วยกันออกไปให้หมด
พร้อมกันนี้ มองว่า ควรเปิดโอกาสให้นักลงทุน เข้ามาร่วมทุนกับภาครัฐ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูเก็ตมากขึ้น ด้วยการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ อาทิ
1. ดึงนักลงทุนมาลงทุนอสังหาฯ ด้วยการแก้ไขสิทธิกฎหมายการเช่าที่ดินจากเดิม 30 ปี เป็น 90 ปี
2. เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดฯได้ 100% จากเดิม 49%
3. การลงทุนกิจการในภูเก็ต ไม่ควรคิดมาตรการด้านภาษีรายได้ โดยไม่หักภาษีชาวต่างชาติ เพื่อให้นำเงินออกนอกประเทศได้ ซึ่งจะทำให้เกิดเงินสะพัด ภาคธุรกิจมีการเติบโต
4. หากชาวต่างชาติที่มีการลงทุนเกิน 30 ล้านบาท ควรให้วีซ่าเกิน 30 ปี
หากสามารถปลดกฎพวกนี้ได้ ราคาที่ดินภูเก็ตจะพุ่งขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัวอย่างแน่นอน และทำให้เกิดการจ้างงาน เงินสะพัด เพราะที่ยุโรป อเมริกาก็ทำกันมาก ซี่งอยากให้รัฐเข้าใจและพัฒนาอย่างจริงจัง
ในส่วนของ ซิซซา กรุ๊ปนั้น ในช่วงวิกฤติโควิต-19 ได้พยายามประคับประคองธุรกิจให้อยู่ได้ ทั้งส่วนของการพัฒนาอสังหาฯเพื่อการขาย และธุรกิจโรงแรม รวมไปถึงพยายามหารายได้เพิ่มขึ้น ด้วยการจัดแคมเปญต่าง ๆ หรือมีการลดราคาสินค้า เพื่อดันยอดขายเพิ่มขึ้น ตลอดจนหาช่องทาง หรือเปิดธุรกิจใหม่ๆ
เพื่อสร้างรายได้
ล่าสุดเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 3/2564 บริษัทฯได้นำโครงการ “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” มาจัดโปรโมชั่น “Pay Less Get TRIPLE” ซื้อ 1 ได้ถึง 3 ต่อ โดย ต่อที่ 1. การันตีผลตอบแทนสูงสุด 8% ต่อปี ต่อที่ 2. การรันตีรับซื้อคืนสูงสุด 105% และต่อที่ 3. มี Early Exit เพื่อเป็นทางเลือกสุดพิเศษให้นักลงทุน
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกระยะเวลาการลงทุนได้ 3 แพ็กเกจ ทั้งการลงทุนระยะสั้น 3 ปี การลงทุนระยะกลาง 5 ปี และลงทุนระยะยาว 15 ปี ซึ่งอัตราผลตอบแทนจะแตกต่างกันไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ธุรกิจอสังหาฯ บริการ จ่อคิวเข้ามาตรการ ‘พักทรัพย์พักหนี้’ รอภาษีชัดเจน
- อสังหาฯ วิกฤติรอบใหม่ โควิดระลอก 3 พ่นพิษ ซัพพลายล้น ตลาดซึมยาว 2-3 ปี
- วัดชีพจรธุรกิจอสังหาฯ โค้งแรกปี 2564 ผ่าน 5 บิ๊กเนมในตลาดฯ
