กรมการค้าภายใน ยืนยัน สินค้าไม่ขาดตลาด ไม่ต้องกักตุน เดินหน้าลุยตรวจเข้ม ป้องกันฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาช่วงคุมโควิด-19 พบเห็นสินค้าขึ้นราคาแจ้งสายด่วน 1569
เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลโควิด-19″ โพสต์ข้อความ กรมการค้าภายใน ยืนยันสินค้ามีเพียงพอ ไม่ต้องกักตุน พบเห็นขายสินค้าเกินราคา แจ้งสายด่วน 1569 หลังจากมีกระแสข่าวประชาชนเริ่มแห่กักตุนสินค้า เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังรุนแรงต่อเนื่อง และการประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาล
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลได้ยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 โดยขอให้ประชาชนลดการเดินทางและให้ทำงานที่บ้าน (WFH) ให้มากที่สุด
ดังนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ออกตรวจสอบ และติดตามสถานการณ์ปริมาณ และราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ หน้ากากอนามัย หน้ากากทางเลือก เจลแอลกอฮอล์ และสินค้าเวชภัณฑ์ต่าง ๆ
ทั้งนี้ เน้นย้ำให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาส โดยต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน รวมทั้ง การตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักสินค้าให้มีความเที่ยงตรง
กรมการค้าภายใน ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบในห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ตลาดสด และร้านค้าทั่วไปเป็นประจำทุกวัน ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจสอบภาพรวม พบว่า ขณะนี้ สินค้ายังคงมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
ขณะที่ ผู้ผลิตสินค้ายืนยันว่า สามารถขนส่งสินค้าให้กับผู้จำหน่ายได้ปกติ แม้ในช่วงนี้ อาจจะมีประชาชนมีปริมาณการซื้อสินค้าแต่ละครั้งเพิ่มขึ้นบ้าง แต่โดยรวมแล้วไม่ได้มีผลกระทบอะไร จึงขอให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้า
สำหรับในส่วนของต่างจังหวัด ได้มอบหมายให้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ติดตามเพื่อกำกับดูแลมิให้มีการเอารัดเอาเปรียบประชาชน นอกจากนี้ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน และลดความเสี่ยงจากการเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยให้แก่ประชาชน กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ยังได้มีรถโมบายพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ออกจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคราคาพิเศษ บริการประชาชนถึงชุมชนกว่า 1,000 คัน ทั่วประเทศ
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีที่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่าย ต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากตรวจเครื่องชั่งน้ำหนัก ที่มีการดัดแปลงแก้ไข จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือกรณีที่ทำให้เครื่องชั่งมีน้ำหนักคลาดเคลื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 120,000 บาท กรณีเครื่องชั่งที่มีค่าน้ำหนักคลาดเคลื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็น การจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่มีพฤติกรรมเอาเปรียบประชาชน ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นายกฯเตือนผู้ค้า อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าช่วง ‘ล็อกดาวน์’
- รถโมบาย ขายสินค้าราคาถูก 1,000 คัน ออกเร่ขายทั่วประเทศ ก.ค.นี้
- ‘ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.’ ชี้ล็อกดาวน์ดันราคาสินค้าเกษตรเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น!
