Business

นายกฯเตือนผู้ค้า อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าช่วง ‘ล็อกดาวน์’

นายกฯ สั่งพาณิชย์คุมเข้มราคาสินค้า โดยเฉพาะอุปกรณ์การแพทย์ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา ดูแลประชาชนใช้จ่ายช่วง “ล็อกดาวน์”  พร้อมสั่งสคบ.สแกนเรื่องร้องเรียนเร่งบรรเทาความเดือดร้อน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยการใช้จ่ายและปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ภายหลังการยกระดับมาตรการควบคุมโรค ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ โดยเน้นการลดและจำกัดการเดินทาง จึงจะทำให้ประชาชน มีความจำเป็นต้องซื้อสินค้าทั้งอุปโภคอุปโภคมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี จึงได้ให้กระทรวงพาณิชย์ เข้มงวดตรวจสอบราคาทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคในท้องตลาด ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เป็นธรรม โดยเฉพาะในส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันโรคแก่ประชาชน อย่างหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา จะกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยและค่าครองชีพของประชาชนในช่วงนี้ได้

สินค้า

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้ เพื่อช่วยกันบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน หากพบมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างไม่เหมาะสม จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ให้มีการตรวจสอบด้วย หากพบเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน จากการขึ้นราคาสินค้าไม่เป็นธรรม ขอให้เร่งตรวจสอบและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนโดยด่วน

ในส่วนของการสต๊อกสินค้านั้น กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมพร้อมรองรับการยกระดับมาตรการควบคุมโรคไว้แล้ว โดยได้มีการประสานกับห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต  ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรายย่อย เตรียมพร้อมสินค้า โดยเฉพาะด้านอาหาร รองรับความต้องการของประชาชน โดยมั่นใจว่าเพียงพอต่อความต้องการ จึงแนะนำให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าในปริมาณที่พอดี ไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้าไว้จำนวนมาก เพราะสินค้าทั้งด้านอุปโภคและบริโภคมีเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน

ไตรศุลี e1625903557144
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่าด้านพลังงาน รัฐบาลมีความพร้อมบรรเทาภาระประชาชนด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) รอบเดือน กรกฎาคม-ธันวาคม 2564 ให้เรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตรา 3.61 บาทต่อหน่วย ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2564

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ยังได้ขยายเวลาคงราคา LPG ออกไปอีก 3 เดือน 1 กรกฎาคมถึง 30 กันยายน 2564 โดยถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 318 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight