Business

เงินเฟ้อมิ.ย. พุ่ง 1.25% ติดต่อกันเดือนที่ 3 ผลราคาน้ำมัน อาหารสด ปรับสูงขึ้น

เงินเฟ้อมิ.ย. ปรับเพิมขึ้น 1.25% น้ำมันปัจจัยหลัก ดันขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือนติด ตามด้วยราคาอาหารสด คาดครึ่งปีหลังขยับขึ้นต่อ ส่วนภาพรวม 6 เดือนเพิ่มขึ้น 0.89%

นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) มิ.ย. 2564 เท่ากับ 99.93 เทียบกับเดือน มิ.ย. 2564 เพิ่มขึ้น 0.38% เทียบกับเดือน มิ.ย. 2563 เพิ่มขึ้น 1.25% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แต่เพิ่มในอัตราที่ชะลอตัวลง

เงินเฟ้อ

ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 0.89% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก พบว่า ดัชนีอยู่ที่ 100.47 เพิ่มขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.2564 และเพิ่มขึ้น 0.52% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.2563 และเฉลี่ย 6 เดือนเพิ่มขึ้น 0.27%

สาเหตุที่ทำให้ตัวเลขยังคงขยายตัวสูงขึ้น มาจากการสูงขึ้นของราคาพลังงาน 8.95% โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้นสูงถึง 27.60% และยังมีการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มอาหารสด เช่น เนื้อสุกร เพราะเกิดโรคระบาด ไข่ไก่ มีการปลดแม่ไก่ ผลไม้สด มีความต้องการเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ เครื่องประกอบอาหาร และน้ำมันพืช ที่ปรับตัวสูงขึ้น

อยางไรก็ตาม พบว่า ได้รับผลดีจากมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และการลดลงของอาหารสดบางประเภท เช่น ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว และผักสด ที่เป็นปัจจัยทอนให้เงินเฟ้อในเดือนนี้ชะลอตัว และไม่เพิ่มสูงเร็วเกินไป ขณะที่สินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกับปริมาณการผลิตและความต้องการ

วิชานัน นิวาตจินดา

สำหรับเดือน มิ.ย. 2564 มีสินค้าที่ราคาเพิ่มสูงขึ้น 226 รายการ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าน้ำประปา เนื้อสุกร ไข่ไก่ น้ำมันพืช ข้าวราดแกง เงาะ ไก่ย่าง ถั่วฝักยาว ลดลง 135 รายการ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผักชี พริกสด หอมแดง ต้นหอม ฟักทอง ชะอม เป็นต้น และไม่เปลี่ยนแปลง 69 รายการ

แนวโน้มเงินเฟ้อ ไตรมาส 3 ขยายตัว 2.13%

ขณะที่แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 คาดว่าไตรมาส 3 จะขยายตัว 2.13% ไตรมาส 4 ขยายตัว 2.37% เพราะยังคงได้รับอิทธิพลจากราคาพลังงาน ที่ยังอยู่ในระดับสูง

ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก มีสัญญาณฟื้นตัวในหลายประเทศ ส่งผลดีต่อการส่งออก และภาคการผลิต ที่ต่อเนื่องกับการส่งออก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปียังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็จะไม่ขยายตัวมาก

“สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ยังเป็นข้อจำกัดที่ชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีโอกาสที่ภาครัฐจะมีการใช้ หรือขยายมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐอีก ทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด”นายวิชานัน กล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับประมาณการเงินเฟ้อปี 2564 ใหม่ คาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 0.7-1.7% ค่ากลาง 1.2% โดยมีปัจจัยจากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) 1.5-2.5% จากเดิม 2.5-3.5% น้ำมันดิบดูไบ 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิม 55-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 30-32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากเดิม 29-31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo