Business

4 สถาบันเอกชน พบ บิ๊กตู่ ชงมาตรการอุ้ม เอสเอ็มอี หนุน ‘ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์’

4 สถาบันเอกชน เข้าหารือนายกรัฐมนตรี ถกแนวทางช่วยเหลือเอสเอ็มอี ชงมาตรการพักต้น พักดอก เติมทุน พร้อมสนุนสนุนโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมหารือนโยบายช่วยเหลือเอสเอ็มอี โดยเชิญ 4 สถาบันเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ร่วมหารือถึงนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี

4 สถาบันเอกชน

ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อลดภาระต้นทุน เพิ่มสภาพคล่อง และเสริมรายได้เพิ่ม เพื่อให้เอสเอ็มอี สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตินี้โควิด-19 และไปต่อได้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุม นายกฯ กล่าวว่า ภาคเอกชน ถือเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาล ในการเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุน SMEs ตามแนวทาง และมาตรการของรัฐ โดยเฉพาะการจูงใจให้ เอสเอ็มอี มาจดทะเบียนกับภาครัฐ เพื่อให้เข้าถึงมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ

ตัวอย่างเช่น เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ช่วยเสริมสภาพคล่อง และเงินทุนหมุนเวียน ในการประกอบธุรกิจ อาทิ การสนับสนุนให้ได้รับสินเชื่อ สินเชื่อ Factoring ดอกเบี้ยต่ำ ร่นระยะเวลาการชำระสินเชื่อการค้าแก่ SMEs ที่เป็นผู้ขายให้เร็วขึ้น จับคู่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ เข้ามาช่วยเหลือและให้ความรู้กับเอสเอ็มอี ในการพัฒนาทักษะที่สำคัญในการประกอบธุรกิจ

พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้ขอให้ สภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หารือร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เพื่อเพิ่มบทบาทในการสนับสนุน เอสเอ็มอี ที่สอดรับกับความต้องการของ เอสเอ็มอี โดยแท้จริงอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้เร่งประชาสัมพันธ์ และขยายผลมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน และการเพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี โดยจะให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตามแนวทาง ที่ได้มีการหารือทันที เพราะ เอสเอ็มอีจำนวนมาก กำลังประสบปัญหาในทุกวันนี้

นายก 1

สำหรับ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ตอบรับแนวทางนโยบายการเปิดประเทศ 120 วัน พร้อมสนับสนุนการฉีดวัคซีนตามแผนเปิดประเทศ และจะใช้ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เป็นต้นแบบ ในการจัดทำมาตรการ ให้สามารถเปิดพื้นที่เศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดที่มีศักยภาพ

พร้อมทั้งเตรียมธุรกิจที่อยู่ในซัพพลายเชน ของการท่องเที่ยว รองรับการเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยว อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าของขวัญของที่ระลึก สินค้าในซัพพลายเชนของโรงแรม

ขณะที่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ให้ความมั่นใจว่า จะดูแลและป้องกันสุขภาวะ ในสถานประกอบการ เพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานประกอบการและแรงงานด้วย

ด้าน หอการค้าไทย ได้นำเสนอมาตรการระยะสั้น และวางรากฐานช่วยเอสเอ็มอีไทย อาทิ การปล่อยสินเชื่อให้ เอสเอ็มอี ผ่านผู้ประกอบการค้าปลีก ปลดล็อกลูกหนี้ที่ติดเครดิตบูโร เอ็นพีแอล เข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้รัฐผ่อนคลายกฎระเบียบให้สถาบันทางการเงิน มีอิสระในการใช้ดุลยพินิจมากขึ้น

ในส่วนของ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นำเสนอมาตรการเร่งด่วนเข้าถึงแหล่งทุน และลดการว่างงาน อาทิ ทั้งการพักต้น-พักดอก-เติมทุน มาตรการสร้างงานสร้างเศรษฐกิจชาติ (Thailand e-Job Platform) เฟรนไซส์ไทย สร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจไทย กองทุนฟื้นฟู NPLs เพื่อการพัฒนา mSMEs ไทย

shutterstock 1905977470 e1616773819191

ฝั่งของ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เสนอ 8 แนวทาง 3 ด้านสำคัญ คือ ด้านการเงิน อาทิ มาตรการสินเชื่อ Supply Chain Factoring โครงการจำนำสต็อกสินค้า ขยายผลมาตรการจาก พรก. Soft Loan เป็นต้น ด้านการตลาด สนับสนุนสินค้า SME ที่ขึ้นทะเบียน Thai SME-GP ของสสว. และด้านการลดค่าใช้จ่าย อาทิ มาตรการ คนละครึ่ง-ภาคSME โครงการ Co-payment ค่าแรงงาน เป็นต้น

ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มรายได้และลดต้นทุน เช่น ด้วยการเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐ และกระตุ้นการการบริโภคภายในประเทศ ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการเราชนะ คนละครึ่ง ม33 เรารักกัน

นอกจากนี้ ยังเพิ่มวงเงินให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การจัดให้มีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ผ่าน พรก. ซอฟต์โลน โครงการค้ำประกันเงินกู้และสินเชื่อสำหรับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว รวมทั้งการออกมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ การลด เร่งคืนภาษี ให้กับผู้ประกอบการส่งออก และขยายระยะเวลาการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล

ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการสนับสนุนอื่น ๆ อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการให้บริการ Digital Factoring และกระบวนการสนับสนุน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย การออกกฎกระทรวงการคลังกำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างจาก SMEs และการออกประกาศคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า กำหนดแนวปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรม เกี่ยวกับระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้ำ (Credit Term) กรณี SMEs เป็นผู้ขายสินค้าหรือบริการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo