ยิ่งใช้ยิ่งได้ เปิดลงทะเบียนวันที่สอง สิทธิ์ยังเหลืออีก 3,719,368 สิทธิ์ จากทั้งหมด 4 ล้านสิทธิ์ “โฆษกกระทรวงการคลัง” ยันโครงการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ “มาตรการช้อปดีมีคืน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ของรัฐบาล ซึ่งเป็นลงทะเบียนวานนี้ (21 มิ.ย.) ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นวันแรกนั้น โดยล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการเปิดลงทะเบียนวันที่สอง ณ เวลาประมาณ 08.17 น. มีการลงทะเบียนแล้วประมาณ 280,000 แสนสิทธิ์ ยังมีสิทธิ์คงเหลือถึง 3,719,368 สิทธิ์ จากทั้งหมด 4 ล้านสิทธิ์
ทั้งนี้ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนวันแรกในที่ 21 มิถุนายน 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ของทุกวันเป็นต้นไปจนกว่าจะครบ 4 ล้านสิทธิ
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการสำหรับประชาชน
- เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน
- มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- สามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้ 1 ครั้งผ่านแอปฯเป๋าตัง ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2564
- เริ่มลงทะเบียนได้วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 6:00-22:00 น.
- ประชาชนใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2564 เวลา 6:00-23:00 น.
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน)
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3
การลงทะเบียนรับสิทธิ สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง
- ลงทะเบียนผ่าน www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือ คลิกที่นี่
- ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง พร้อมผูก G-Wallet
(สำหรับผู้ที่เคยได้รับสิทธิโครงการ/มาตรการรัฐที่ใช้แอปฯ เป๋าตัง)
(กดแถบโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้)
ทั้งนี้ ผู้ที่เคยรับสิทธิโครงการของรัฐ อาทิ ชิมช้อปใช้ เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง เราชนะ ม33 เรารักกัน เราชนะ สามารถ ลงทะเบียนยิ่งใช้ยิ่งได้ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการข้างต้นสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com
หลักเกณฑ์สำหรับประชาชน
- ประชาชนสามารถเปลี่ยนแปลงสิทธิได้ 1 ครั้ง และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้อีก
- ก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน
- การซื้อ-ขายสินค้าและ/หรือบริการ ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระสินค้าและ/หรือบริการกันแบบพบหน้า (face-to-face) โดยไม่มีการดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีใด
- แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” จะสามารถใช้งานได้ ระหว่างเวลา 6.00-23.00 น. ของทุกวัน
- ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการฯ กระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อมาตรการและ/หรือโครงการของรัฐ หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการ/โครงการใด ๆ ของรัฐ
เมื่อประชาชนลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ SMS แจ้งสิทธิภายใน 3 วัน โดยก่อนการใช้สิทธิครั้งแรกผู้ได้รับสิทธิตามโครงการจะต้องยืนยันตัวตนเพื่อใช้ g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ด้วยบัตรประจำตัวประชาชน
สำหรับผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนสามารถยืนยันตัวตนได้ที่สาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน หรือตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทย หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน Krungthai Next สามารถยืนยันตัวตนผ่าน Krungtha iNext ได้
ทั้งนี้ เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ (ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล (Gift voucher) บัตรเงินสด (Gift card) และสินค้าหรือบริการที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า เพื่อรับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e – Voucher) กับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2564 ในเวลา 06.00-23.00 น. โดยวงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ e – Voucher ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน ซึ่งยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิต้องไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน และจะได้รับสิทธิ e – Voucher สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
เกณฑ์การใช้จ่าย มีดังนี้
- ยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 1 – 40,000 บาทแรก ได้รับ e – Voucher 10% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน
- ยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 40,001 – 60,000 บาท ได้รับ e – Voucher 15% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสิทธิ e -Voucher จะคืนเป็นวงเงินเข้าใน g – Wallet ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
ทั้งนี้ สามารถใช้จ่ายด้วย e -Voucher ที่ร้านที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม-31 ธันวาคม 2564 โดยไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2564 เวลา 22.00 น. มีจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 29,734 ราย โดยสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการและมีคุณสมบัติเป็นไปตามที่กำหนด ได้แก่ ร้านค้าทั่วไป ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านธงฟ้า ร้าน OTOP ผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 06.00 น. – 22.00 น. เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือสาขาธนาคารกรุงไทย
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ไม่เกี่ยวข้องกับ “มาตรการช้อปดีมีคืน” ที่ให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ที่ได้ดำเนินการไปเมื่อช่วงปลายปี 2563 (วันที่ 23 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563) ดังนั้น ประชาชนที่เคยเข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืนจะสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ แนะทริคคำนวณ e-Voucher จ่าย 2 หมื่นได้คืนกี่บาท เช็คเลย!
- ยิ่งใช้ยิ่งได้เงียบเหงา!! ผ่านไปกว่า 10 ชม. ยังเหลือสิทธิ์อีก 3.78 ล้านสิทธิ์
- เช็คให้ชัด! ‘คนละครึ่งเฟส 3’ กับ ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ เลือกโครงการไหนเหมาะที่สุด