Business

เตือนแล้วนะ!! ‘เราชนะ’ สิ้นสุดโครงการ 30 มิ.ย.นี้ รีบใช้เงินด่วนเลย

“กระทรวงการคลัง” เตือนการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ในโครงการเราชนะจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 รีบใช้เงินด่วนเลย!!

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการใช้จ่ายของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ซึ่งมีการใช้จ่ายแล้ว รวมทั้งสิ้น 269,318 ล้านบาทโดยแยกได้ ดังนี้

1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.7 ล้านคนได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมาจำนวน100,590 ล้านบาท

2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่งและกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้วจำนวน 17.1 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมาจำนวน 148,355 ล้านบาท

เราชนะ

3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 20,373 ล้านบาทโดยมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราชนะที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้วจำนวน 23.6 ล้านคนจากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด 33.2 ล้านคน

โฆษกกระทรวงการคลัง ได้เน้นย้ำว่า โครงการเราชนะจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ขอให้ประชาชนที่ยังมีวงเงินสิทธิ์เหลือสำรวจวงเงินสิทธิ์คงเหลือของท่าน และวางแผนใช้จ่ายให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด

ตัดสิทธิ์ร้านค้าหลังพบฝ่าฝืนหลักเกณฑ์

นางสาวกุลยา รายงานว่า ล่าสุด กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้มีการกำหนดแนวทางเพื่อควบคุม และป้องกันการกระทำผิดวัตถุประสงค์ของโครงการเราชนะอย่างเข้มงวด โดยได้มีการจัดตั้งคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูล และเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการเราชนะ ในการติดตามตรวจสอบผู้ประกอบการ และประชาชนที่กระทำการเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด

ในกรณีที่พบการกระทำผิดหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ เช่น การรับแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด เป็นต้น จะดำเนินการระงับสิทธิชั่วคราวการเข้าร่วมโครงการ และร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันปรับปรุงระบบการปฏิบัติงานของแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ให้มีความรัดกุมและเหมาะสมมากขึ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและผู้ประกอบการที่สุจริต ตลอดจนควบคุมและลดโอกาสในการกระทำความผิดของผู้ประกอบการ

กระทรวงการคลัง ได้ทำการระงับสิทธิชั่วคราวการผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ เนื่องจากตรวจพบธุรกรรมที่ผิดปกติจำนวน 2,751 ราย โดยมีผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งจัดส่งเอกสารชี้แจงโต้แย้งมาภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งคณะทำงานฯ ได้วินิจฉัยเอกสารชี้แจงโต้แย้งแล้วและมีมติให้ยกเลิกการระงับสิทธิชั่วคราวผู้ประกอบการจำนวน 187 ราย

โดยผู้ประกอบการจะสามารถเข้าร่วมโครงการเราชนะโดยการใช้แบนเนอร์ “เราชนะ” ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้อีกครั้ง สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ผ่านการวินิจฉัย สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะมีเอกสารแจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo