Business

กลุ่มค้าปลีกฯ หอการค้าไทย ลุย ‘ฮักไทย ฮักภูเก็ต’ วันเปิดเมืองภูเก็ต 1 ก.ค. กระตุ้นจับจ่าย

กลุ่มการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย เตรียมเปิดโครงการ ฮักไทย ฮักภูเก็ต วันเปิดเมืองภูเก็ต 1 กรกฎาคมนี้ กระตุ้นจับจ่าย พร้อมโชว์ความสำเร็จ 3 ภารกิจ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานกลุ่มการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย เปิดเผยว่า โครงการ “ฮักไทย” เป็นหนึ่งในสาม ภารกิจของกลุ่มการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย ที่ดำเนินการภายใต้นโยบาย “Connect the Dots” ฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใน 99 วันแรก ของนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย ที่ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564

844239

 

ทั้งนี้ กลุ่มการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย ได้เริ่มเปิดโครงการ ฮักไทย ครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าผลักดันโครงการ “ฮักไทย” ให้เข้าถึงทุกจังหวัด เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศ โดยสร้างต้นแบบแซนด์บ็อกซ์ ครอบคลุมทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และออมนิชาแนล (Omnichannel) กับกลุ่มเซ็นทรัล และกำลังขยายผลไปยังกลุ่มบริษัทค้าปลีกอื่น ๆ ทั่วประเทศ

โครงการ ฮักไทย จะเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งสำหรับคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อรองรับการเปิดเมืองและเปิดประเทศ โดยมุ่งให้เกิดการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ผ่านการท่องเที่ยว และใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญ ที่จะช่วยกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจของไทย ผ่านการกิน-เที่ยว-ใช้

นอกจากนี้ ในวันเปิดเมืองภูเก็ต หรือ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะมีการเปิดตัวโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” (Hug Thais Hug Phuket) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งคาดว่ารายได้ที่จะมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรก จะมีกว่า 12,000 ล้านบาทภายใน 3 เดือน

หลังจากนั้น จะขยายผล “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” ไปยังจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่อไป เพื่อเป็นการเปิดเมือง เปิดประเทศ และเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ โดยจะมีการทำงานประสานร่วมกับสมาคมต่าง ๆ อาทิ อาทิ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย และสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย เป็นต้น

844236

สำหรับอีก 2 ภารกิจ ที่ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่

  • การสร้างระบบการกระจายและฉีดวัคซีน ให้รวดเร็วที่มีประสิทธิภาพ

กลุ่มการค้าปลีกและบริการ เป็นผู้ริเริ่มในการสร้างระบบการจัดการ และกระจายวัคซีน ที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร (Total Solutions) ประกอบด้วย ระบบการปฎิบัติการ และการสื่อสาร รวมถึงจัดหาพื้นที่ รวมทั่วประเทศ 382 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 82 แห่งและต่างจังหวัด 300 แห่ง ซึ่งรองรับการฉีดวัคซีนสูงสุด 500,000 คนต่อวัน

พร้อมกันนี้ ได้จัดทำแซนบ็อกซ์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเอสซีจี ซึ่งถือเป็นต้นแบบพื้นที่ฉีดวัคซีน ที่จะขยายผลต่อไปยัง จุดฉีดวัคซีนอื่น ๆ ทั้งของภาคเอกชนอีกหลายแห่ง และจุดฉีดวัคซีนของกระทรวงแรงงาน ในระบบประกันสังคมอีก 67 แห่งทั่วประเทศ

  • ผลักดันให้ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุน

กลุ่มค้าปลีกและบริการ เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญกับระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก เพราะมี SME ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อยู่ในระบบถึง 2.4 ล้านราย และสร้างการจ้างงานมากกว่า 12 ล้านคน คิดเป็น 34% ของ GDP การบริโภคทั้งประเทศ

844237

ดังนั้นการให้ความช่วยเหลือกับ SME กลุ่มนี้ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน ด้วยการเป็นศูนย์กลางในการเชื่อม SME ในระบบค้าปลีกกับธนาคาร ผนึกกำลังสร้าง Digital Factoring Platform โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล ให้กับธนาคารพาณิชย์ ทั้งของภาครัฐ และเอกชน ผ่านสมาคมธนาคารไทย ในการพิจารณาสินเชื่อให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เป็นการแก้ไขปัญหา SME โดยเฉพาะรายเล็กไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้

ทั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้แก่ SME ทั่วประเทศกว่า 500,000 ราย ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งต้นแบบแซนด์บ็อกซ์นี้ เป็นการตอบรับนโยบาย “โครงการพี่ช่วยน้อง” ของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และทางหอการค้าไทยได้เข้าพบและเรียนปรึกษารายละเอียดของโครงการนี้ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 และได้ขยายแซนด์บ๊อกซ์ต้นแบบ ไปยังสมาชิกของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และเครือข่ายหอการค้าไทย

นอกจากนี้ กลุ่มการค้าปลีกและบริการยังคงเร่งผลักดันพัฒนาศักยภาพของ SME ไทยให้แข็งแรงในเรื่อง อัพสกิล และรีสกิล รวมทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการดำเนินธุรกิจและการค้าที่เป็นธรรมเพื่อเป็นแต้มต่อให้ SME สามารถฟื้นฟูและขยายธุรกิจต่อไปได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo