Economics

ยันกู้เงิน 5 แสนล้านไม่กระทบวินัยการคลัง ลุ้นเพิ่มวงเงินคนละครึ่งรอบใหม่

“กระทรวงการคลัง” ยันฐานะการเงินประเทศไม่น่าห่วง ระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ในกรอบ 60% ของจีดีพี ชี้กู้เงิน 5 แสนล้านไม่กระทบวินัยการคลัง พร้อมลุ้นเพิ่มวงเงินคนละครึ่งรอบใหม่

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง คาดว่าการใช้จ่ายเม็ดเงินจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดูแลสถานการณ์โควิดนั้น ในกรณีที่มีการใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.3% จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.3-2.8% ในปี 2564

กุลยา1412
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท

อย่างไรก็ตาม คาดว่า การใช้จ่ายเม็ดเงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาทนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล ในการออกมาตรการต่าง ๆ ซึ่งจะพิจารณาจากสถานการณ์โควิด ตามความเหมาะสม ซึ่งอาจจะไม่ได้นำมาใช้แจกผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น คนละครึ่ง เราชนะ ทั้งหมด

ทั้งนี้ การใช้จ่ายเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาท จะต้องพิจารณาโครงการอื่น ๆ ด้วย อาจไม่ได้นำมาแจกเยียวยาทั้งหมด ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จะเป็นผู้พิจารณาโครงการต่าง ๆ ส่วนหนึ่งก็ต้องใช้ในการจ้างงาน รวมทั้งมาตรการจากกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการดูแลสถานการณ์โควิดด้วย

นางสาวกุลยา ยืนยันว่า การกู้เงินเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท ไม่ส่งผลต่อวินัยการคลัง ระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ในกรอบ 60% ของจีดีพี รวมถึงฐานะการคลังก็ไม่น่าเป็นห่วง แม้ว่าการจัดเก็บรายได้รัฐในปี 2564 จะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่เงินคงคลังต้นงวดปีงบประมาณ 2564 ยังมีอยู่ในระดับ 5 แสนล้านบาท

ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ต้องการให้กระทรวงการคลังทบทวนระยะเวลาโครงการคนละครึ่ง ให้เร็วขึ้นเป็นเดือนมิถุนายน 2564 จากเดิมเดือนกรกฎาคม 2564 และเพิ่มวงเงินต่อรายเป็น 6 พันบาท จาก 3 พันบาทนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่ายนโยบาย แต่โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีระยะเวลาถึงสิ้นปี 2564 ซึ่งในระหว่างนี้อาจมีการพิจารณารายละเอียดมาตรการตามความเหมาะสม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo