ส่งออกไทย พ้นวิกฤติจุดต่ำสุด “จุรินทร์” มั่นใจปีนี้โตเกินเป้า 4% คาดเดือนเมษายน โตได้เกิน 10% เดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหา อุปสรรคการส่งออก ต่อเนื่อง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทย ในเดือนเมษายน 2564 คาดว่าจะขยายตัวได้เกิน 10% ซึ่งเป็นการสะท้อนว่า ส่งออกไทย พ้นวิกฤติจุดต่ำสุด มาแล้ว หลังจากที่เดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา การส่งออก สามารถทำตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 24,222 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.47% หรือคิดเป็นเงินบาท 750,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ หากไม่นับรวม น้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ก็ยังเติบโตถึง 12% ขณะที่ยอดรวม 3 เดือนปี 2564 (มกราคม-มีนาคม) ก็กลับมาเป็นบวกแล้ว 2.27%
“ผมกล้าพูดได้เลยว่า การส่งออกของไทย ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และยังเป็นตัวจักรสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้ในยามที่เราต้องเผชิญกับ วิกฤติโควิด-19″นายจุรินทร์ กล่าว
สำหรับตัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสำคัญอีกตัว คือ การท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัว แต่การส่งออกได้ฟื้นตัว และดีขึ้นต่อเนื่อง และในปีนี้ การส่งออก ได้ตั้งเป้าไว้จะขยายตัว 4% แต่ผ่านมา 3 เดือน การส่งออกก็ดีขึ้นแล้ว คาดว่าทั้งปีจะเกินเป้า 4% แน่นอน ส่วนจะโตเท่าไร ไม่ขอประเมิน แต่จะร่วมมือกับภาคเอกชน ในการทำตัวเลขให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะร่วมมือกับภาคเอกชน ในนาม กรอ.พาณิชย์ ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา อุปสรรคทางการค้า และการส่งออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา ได้แก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าไปแล้ว โดยอนุญาตให้เรือที่มีขนาดใหญ่ 400 เมตร สามารถเข้ามาเทียบท่ารับสินค้าไทย เพื่อการส่งออกได้ ส่วนปัญหาการค้าชายแดน ก็คลี่คลายลงไปมากแล้ว และตัวเลขการค้าชายแดน จะมีส่วนผลักดันการส่งออกของไทย ในภาพรวมมากขึ้น
ขณะเดียวกัน จะร่วมมือในการทำงานร่วมกับ หอการค้านานาชาติ หลังจากที่มีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ที่มีนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ เป็นประธาน และได้นำคณะเข้ามาแนะนำตัว และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกระทรวงพาณิชย์ไปแล้ว โดยจะร่วมมือกัน ในการขับเคลื่อนการส่งออก ด้วยการใช้เครือข่าย ของหอการค้านานาชาติ ที่มีสมาชิกอยู่ใน 130 ประเทศทั่วโลก และมีบริษัทที่อยู่ภายใต้ทั้งหมด 45 ล้านบริษัท เข้ามาช่วย ส่วนในไทย มีหอการค้านานาชาติประจำประเทศไทย มาแล้วกว่า 20 ปี
นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ธุรกิจร้านอาหาร ที่ได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังไม่สามารถเปิดให้บริการ หรือมีข้อกำหนด ที่ทำให้ไม่สามารถรับลูกค้าได้เต็มที่ จนต้องปรับตัว ทำการขายในระบบเดลิเวอรี่มากขึ้น ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ
“กระทรวงฯ กำลังเจรจากับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ต่าง ๆ ให้ช่วยลดค่า GP จากที่คิดเฉลี่ยประมาณ 30% เพราะยิ่งลดได้เท่าไร ก็ช่วยเยียวยาร้านอาหารไปด้วย ผู้บริโภคจะไม่ได้รับผลกระทบ หรืออาจซื้ออาหารได้ในราคาถูกลง เพื่อช่วยให้ร้านอาหาร สามารถยืนอยู่ได้ ต่อลมหายใจ”นายจุรินทร์ กล่าว
พร้อมกันนี้ จะมีการประสานขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เนื่องจากธุรกิจประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียน โดยมีธนาคาร ที่เข้าร่วมโครงการเงินกู้ของรัฐบาลอยู่แล้ว จัดทำแพ็คเกจ ที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ เพื่อต่อลมหายใจได้ง่าย
กระทรวงพาณิชย์ จะเป็นตัวกลางเป็นเจ้าภาพจัดงานแมตช์ชิ่ง โดยให้ธนาคารที่ปลอดดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยต่ำ และมีวงเงินปล่อยกู้อยู่แล้ว คาดว่าเหลืออยู่ 2,000 กว่าล้านบาท ให้ร้านอาหาร ให้สามารถพบกับธนาคารเหล่านี้ได้โดยตรง และได้เชิญตัวแทนร้านอาหารทั่วประเทศ ตัวแทนธนาคาร มาพบกันที่กระทรวงพาณิชย์ ว่าจะจัดกิจกรรมอย่างไร ทั้งการพบปะโดยตรง และพบปะออนไลน์ ซึ่งเป็น 2 โครงการ ที่จะดำเนินการในสัปดาห์หน้า จะได้แบ่งเบาภาระของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนเม.ย. พุ่ง 322.30% ส่งออกเพิ่มขึ้น 160.16%
- สรท.ปรับคาดการณ์ส่งออกไทย คาดโต 6-7% รับเศรษฐกิจโลกฟื้น
- ‘เอสเอ็มอีส่งออก’ จี้รัฐ เร่งคืน ‘ VAT’ ช่วยเสริมสภาพคล่อง ยุคโควิด
