Business

เดินเครื่องฟื้นท่องเที่ยว เคาะชัด! แผนเปิดประเทศ 4 ระยะ นำร่อง 10 พื้นที่ รับต่างชาติ

เดินเครื่องฟื้นท่องเที่ยว คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เคาะแผนเปิดประเทศ 4 ระยะ รับชาวต่างชาติ เร่งฉีดวัคซีนคนวงการท่องเที่ยว

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีเป้าหมาย เดินเครื่องฟื้นท่องเที่ยว

cell virusโควิดใน ม ๒๑๐๕๐๗ 0

ที่ประชุมได้พิจารณา และเห็นชอบ แนวทางการฟื้นฟูการท่องเที่ยว เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมกับมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อม เพื่อดำเนินการตามแผน การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย

  • กระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อม และประสานรวบรวม จำนวนวัคซีนโควิด-19 ให้กับพื้นที่ ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว 10 พื้นที่
  • กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาการจัดสรรวัคซีน
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมความพร้อมด้านการตลาด
  • สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาการจัดสรรวัคซีน

สำหรับแนวทางการเปิดประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวนี้ เกิดขึ้นจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้หารือร่วมกับ หน่วยงานรัฐ เอกชน และจังหวัดต่าง ๆ โดยได้กำหนดช่วงดำเนินการเป็น 4 ระยะ ได้แก่

พิพัฒ

ระยะที่ 1 นำร่อง 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2564 เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน มีใบรับรองการฉีดวัคซีน และกักตัวตามระยะเวลาที่ ศบค. กำหนด

ระยะที่ 2 Phuket Sandbox 1 กรกฏาคม – 30 กันยายน 2564 เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว มีใบรับรองการฉีดวัคซีน เข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตโดยไม่มีการกักตัว

ระยะที่ 3 ผ่อนคลายในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน และมีใบรับรองการฉีดวัคซีน ขยายพื้นที่ไปยังจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ชลบุรี บุรีรัมย์ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องกักตัว

ระยะที่ 4 เข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว และมีใบรับรองการฉีดวัคซีน เข้ามายังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว

ทั้งนี้ พื้นที่ศักยภาพ 10 แห่ง ที่จะเริ่มดำเนินการ มีดังนี้

  • จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ
  • จังหวัดกระบี่ บางส่วน เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ
  • จังหวัดพังงา บางส่วน เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ
  • จังหวัดสุราษฎร์ธานี บางส่วน เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ
  • จังหวัดเชียงใหม่ บางส่วน เนื่องจากจะมีการจัดการแข่งขันวิ่งภูเขา และวิ่งเทลชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 11 – 14 พฤศจิกายน 2564
  • จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ของชาวต่างชาติ และพื้นที่เชื่อมโยง กรุงเทพฯ
  • จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งพักผ่อนที่สำคัญ ของทั้งชาวไทยและต่างชาติ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
  • จังหวัดเพชรบุรี เนื่องจากพื้นที่เชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ และประจวบคีรีขันธ์
  • จังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากจะมีการจัดการแข่งขันกีฬาหลายรายการ เช่น โมโต จีพี ในเดือนต.ค. 2564
  • จังหวัดกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นจุดหลายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว

ท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักที่จะทำให้การดำเนินการตามแผนสำเร็จได้ คือ ประชาชน และบุคลาการด้านการท่องเที่ยวในทุกพื้นที่ จะต้องได้รับวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% ที่ประชุมจึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานเพื่อเตรียมความพร้อม การกระจายวัคซีนโควิด – 19 ให้เป็นไปตามแผน

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบในการสนับสนุน และผลักดันให้ดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ให้แก่บุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยให้ถือว่าเป็นบุคลากรกรด่านหน้า ที่ต้องได้รับวัคซีนโดยเร็ว ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรองรับนโยบายเปิดประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งประชาชน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 39.9 ล้านคน ทั้ง 10 จังหวัดดังกล่าว มีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 80%ของรายได้จากการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด

ดังนั้น ภายใต้แผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวนี้ หากสามารถดำเนินการใน 10 จังหวัดได้ตามแผน จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 3.5 ล้านคน และสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 298,192 ล้านบาท แยกเป็นเดินทางเข้ามาสร้างรายได้ของจังหวัดภูเก็ต 1,096,699 คน สร้างรายได้ 122,046 ล้านบาท เป็นการเดินทางเข้า และสร้างรายได้ให้กับ 9 จังหวัด 2,403,301 คน สร้างรายได้ 176,146 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้ยังเห็นชอบ ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้ง และการประชุม คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวประจำเขตการท่องเที่ยว 2564 ซึ่งเป็นประกาศการกำหนดองค์ประกอบ และวิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวแต่ละเขต ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 9 เขต และอยู่ระหว่างขั้นตอนการประกาศเพิ่มอีก 6 เขต

รายละเอียดประกาศดังกล่าว จะครอบคลุมภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ตลอดจนกำหนดขอบเขตอำนาจ ซึ่งจะทำให้ คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละเขตมีบทบาทผลักดันการท่องเที่ยวเชิงพื้นที่ให้ชัดเจน ทั้งในแง่การรักษา ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว การบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ สนับสนุนให้รายได้ที่เกิดจากภาคท่องเที่ยว กระจายลงไปยังท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo