Economics

‘เราชนะ’ เตรียมรับอีก 2,000 บาท เงินเข้าวันไหน อัพเดทล่าสุดที่นี่เลย!!

จับตา!! “เราชนะ” อัพเดทล่าสุด มีผู้ได้รับสิทธิ์ 32.9 ล้านคน เงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 204,231 ล้านบาท เตรียทเสนอรายละเอียดโครงการต่อที่ประชุม ครม. 11 พฤษภาคมนี้ 

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เห็นชอบในหลักการของข้อเสนอ มาตรการบรรเทาผลกระทบของประชาชน และผู้ประกอบการธุรกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในระลอกเดือนเมษายน 2564 และเห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

โดยกระทรวงการคลัง ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการเราชนะ จะได้นำเสนอรายละเอียด และแนวทางการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมของโครงการ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ต่อไป

ทั้งนี้ โครงการเราชนะ มีจำนวนกลุ่มเป้าหมายประมาณ 32.9 ล้านคน โดยจะได้รับเงินเพิ่มอีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ให้กรอบวงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาท โดยให้การใช้จ่ายสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2564

โดยเบื้องต้น คาดว่า การรับเงินเราชนะรอบนี้ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากเป็นการขยายวงเงินให้กับผู้ที่เคยได้รับสิทธิรายเดิม ที่เคยได้รับเงิน 7,000 บาทไปแล้ว 32.8 ล้านคน ทั้งนี้ รายละเอียดการลงทะเบียนรับเงินเราชนะรอบใหม่นั้น ครม.ยังไม่เคาะวันและเวลาที่แน่นอน ต้องติดตามผลการประชุม ครม. ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้

เราชนะ

“กระทรวงการคลัง” รายงานถึงความคืบหน้าของโครงการ ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ดังนี้

  1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,742 ล้านบาท
  2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้น และยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการแล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 115,246 ล้านบาท
  3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 15,243 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการแล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 204,231 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการ ที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 24.9 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่ง ที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการคลัง ขอเตือนให้ประชาชนได้ระมัดระวังข่าวปลอม ในลักษณะของข้อความสั้น (SMS) หรือข้อมูลที่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ที่อาจมีการฉวยโอกาสหลอกลวง โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารของโครงการฯ จากช่องทางการสื่อสารที่เป็นทางการจากทางราชการ ได้แก่ www.เราชนะ.com www.mof.go.th www.fpo.go.th และ Facebook Fanpage สถานีข่าวกระทรวงการคลัง และ “สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง: Fiscal Policy Office”

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลัง แจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 กระทรวงการคลัง ได้ระงับสิทธิชั่วคราว ของผู้ประกอบการในโครงการ ที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เช่น การแลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด เพิ่มเติม จำนวน 2,744 ราย

โดยผู้ประกอบการดังกล่าว ที่ประสงค์จะชี้แจงโต้แย้งสามารถดาวน์โหลดเอกสาร “แบบฟอร์มเพื่อชี้แจงโต้แย้ง” ได้ที่เว็บไซต์ www.เราชนะ.com และจัดส่งเอกสารดังกล่าวผ่านทางไปรษณีย์มายังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือทาง e-Mail: [email protected] ภายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564

ทั้งนี้ หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว กระทรวงการคลัง จะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ว่าด้วยวิธีการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการอาจเสียสิทธิในการเข้าร่วมโครงการ และถูกตรวจสอบขยายผลสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการคลัง จึงขอความร่วมมือประชาชน ในการรักษาสิทธิ์ของตนเอง และขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo