“สวนดุสิตโพล” เปิดผลสำรวจ ประชาชนกังวลปัญหาเศรษฐกิจ ใช้เม็ดเงินท่องเที่ยวเท่าเดิม แม้มีมาตรการกระตุ้น ส่วนใหญ่พอใจได้เพิ่มวันหยุด
วันนี้ (4 เม.ย.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “การกระตุ้นเศรษฐกิจ (การท่องเที่ยว) ในยุคโควิด-19”
สถานการณ์หลังจากที่มีโควิด-19 ประชาชนต้องงดการออกไปเที่ยวในช่วงวันหยุดหรือวันหยุดยาว ทำให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เป็นการกระตุ้นให้คนไทยหันมาท่องเที่ยวภายในประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,265 คน ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 1 เมษายน 2564 สรุปผลได้ ดังนี้
- ก่อนมีโควิด-19 ประชาชนท่องเที่ยวในประเทศบ่อยเพียงใด
1.2-3 เดือนครั้ง 39.37%
2.เดือนละครั้ง 25.69%
3.เดือนละ 2-3 ครั้ง 12.25%
- เมื่อมีโควิด-19 ประชาชนท่องเที่ยวในประเทศบ่อยเพียงใด
1.ไม่เที่ยวเลย 59.29%
2. ระยะเวลา 2-3 เดือนครั้ง 24.74%
3.เดือนละครั้ง 6.40%
- หลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ประชาชนท่องเที่ยวในประเทศบ่อยเพียงใด
อันดับ 1 ระยะเวลา 2-3 เดือนครั้ง 37.94%
อันดับ 2 ไม่เที่ยวเลย 31.46%
อันดับ 3 เดือนละครั้ง 16.36%
- กรณีที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการ/มาตรการของรัฐ ทำให้ประชาชนกล้าใช้จ่ายมากขึ้นหรือไม่
อันดับ 1 ใช้จ่ายเท่าเดิม 43.87%
อันดับ 2 ใช้จ่ายมากขึ้น 39.26%
อันดับ 3 ไม่กล้าใช้จ่าย 8.49%
- ประชาชนพึงพอใจต่อโครงการ/มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐต่อไปนี้มากน้อยเพียงใด
อันดับ 1 เพิ่มวันหยุดพิเศษ 80.47%
อันดับ 2 ชิมช้อปใช้ 79.13%
อันดับ 3 เราเที่ยวด้วยกัน 67.67%
อันดับ 4 ทัวร์เที่ยวไทย 67.58%
อันดับ 5 แพ็คเกจกำลังใจ 63.25%
- ปัจจัยใดที่จะกระตุ้นให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
อันดับ 1 ครอบครัว/เพื่อน/ตนเองอยากไปเที่ยว 63.40%
อันดับ 2 มีวันหยุดยาวเพิ่มขึ้น 48.93%
อันดับ 3 จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง 47.89%
อันดับ 4 ที่พัก/โรงแรม/สายการบินมีส่วนลด มีโปรโมชั่น 47.57%
อันดับ 5 มีเงินเก็บเพียงพอ 45.98%
- ในภาพรวม ประชาชนเห็นด้วยกับมาตรการการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะโควิด-19 หรือไม่
อันดับ 1 เห็นด้วย 75.18%
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 15.42%
อันดับ 3 ไม่เห็นด้วย 9.40%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า ถึงแม้จะมีมาตรการออกมากระตุ้นทำให้คนออกไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณเม็ดเงินที่ใช้จ่ายกลับไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น เพราะประชาชนยังมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ ภาครัฐจึงควรเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการมีมาตรการที่ดีด้านสาธารณสุขเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ กล้าที่จะเดินทางและกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบที่แท้จริง
ผศ.ดร.อังค์ริสา แสงจำนงค์ ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการงานบริการ (หลักสูตรนานาชาติ) โรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่กินระยะเวลามากว่า 1 ปี คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธได้ว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักให้กับประเทศไทยโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ และที่มาของรายได้หลักของคนไทยส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยว โดยเมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวดิ่งไปถึงจุดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ก็ทำให้ประชาชนคนไทยมากกว่า 70% ได้รับผลกระทบในทันที และยิ่งกินระยะเวลายาวนานยิ่งทำให้เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
การกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภาครัฐจึงเป็นแนวทางที่ดีที่นอกจากจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดให้คนไทยได้บ้างแล้ว ยังจะเป็นการเสริมสภาพคล่องเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปแก้ปัญหาได้ทั้งระบบก็ตามแต่อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยมีรอยยิ้มขึ้นได้บ้าง
“อย่างไรก็ตาม คนไทยยังคงเฝ้ารอการเร่งคืนสภาพเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภาพรวมให้ได้โดยเร็ว โดยภาครัฐจะต้องใช้มาตรการเชิงรุกเร่งผลักดันประเทศไทยสู่ประเทศปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่เพื่อเป็นการต่อลมหายใจให้คนไทยทั้งประเทศ” ผศ.ดร.อังค์ริสา กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เซี่ยงไฮ้’ มุ่งเพิ่มรายได้ท่องเที่ยว ลุยสร้าง ‘โรงแรมอัจฉริยะ’ 600 แห่ง
- ‘การบินไทย’ เปิด 2 ไฟลท์พิเศษ ‘แฟรงก์เฟิร์ต – ภูเก็ต’ รับนักท่องเที่ยว
- ทางรอดโรงแรม จับเทรนด์อุตสาหกรรมเที่ยวไทย หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว