Business

ทางรอดโรงแรม จับเทรนด์อุตสาหกรรมเที่ยวไทย หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

ทางรอดโรงแรม หลังลดวันกักตัว พร้อมเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว ต้องจับเทรนด์นักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปจากโควิด-19 แนวโน้มจองล่วงหน้าเริ่มกลับมา

โควิด-19 ที่พ่นพิษอุตสาหกรรมโรงแรมอย่างหนักในปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงต้นปีนี้ นอกจากจะเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการโรมแรมแล้ว ยังถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการ ที่จะเสาะแสวงหา ทางรอดโรงแรม เพื่อรอวันฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว หลังจากโควิดคลี่คลาย

ทางรอดโรงแรม

จากการประกาศลดวันกักตัว นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับวัคซีนต้านโควิดจาก 14 วันเหลือเพียง 7 วัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป แม้อาจเป็นก้าวแรกเล็ก ๆ แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย

นายแบรด ไฮนส์ รองประธานกรรมการบริษัท SiteMinder ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า สิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการโรงแรม การจับแนวโน้มของนักท่องเที่ยว ที่เปลี่ยนแปลงไปจากโควิด และเตรียมความพร้อม ปรับตัวรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้

5 แนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย

  • การท่องเที่ยวภายในประเทศจะยังคงเป็นส่วนผลักดันสำคัญ สำหรับโรงแรมภายในประเทศ แต่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ จะค่อย ๆ ฟื้นกลับมา ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

การรับมือกับมาตรการจำกัดการเดินทาง ที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง และความไม่แน่อน ของการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย จะยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ที่เข้าพักโรงแรมในประเทศ ในอีกหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งส่งผลให้เกิดปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

Brad Haines 1
แบรด ไฮนส์

ประการแรก นักท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งกำลังเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ช่วยเพิ่มอัตราการจองห้องพักโดยตรง ให้กับโรงแรม โดยที่โรงแรมไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่น

ทั้งนี้ เห็นได้จากผลการจัดอันดับ 12 แพลตฟอร์มจองโรงแรม ที่สร้างรายได้จากการจองห้องพัก ให้กับโรงแรมในประเทศไทยสูงสุด ในปี 2563 โดยในปีที่ผ่านมา เว็บไซต์โรงแรม จัดอยู่ในอันดับสามของช่องทางที่มีคนจองห้องพักมากที่สุด ซึ่งไต่อันดับขึ้นมาจากอันดับที่สี่ ในปีก่อนหน้า ยิ่งทำให้การจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรมของนักท่องเที่ยวไทยในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว

ประการที่สอง อัตราการท่องเที่ยวในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้เราได้เห็นบทบาทที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ของช่องทางการจองระดับประเทศ และระดับภูมิภาค

ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เราได้เห็นผู้เล่นระดับภูมิภาคอย่าง Agoda ที่ไต่ขึ้นมาครองอันดับหนึ่งแทนที่ Booking.com เนื่องจากนักท่องเที่ยว มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยว และส่วนลดข้อเสนอ ของโรงแรมในประเทศ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มว่า จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

shutterstock 1257769531 re

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศ จะยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ในอีกหลายเดือนข้างหน้านี้ ได้มีการคาดการณ์ จะได้เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวนกว่า 2 ล้านคน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงปลายปี 2564

การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะช้าหรือเร็ว มีส่วนขึ้นอยู่กับประสิทธิผล และการแจกจ่ายวัคซีน ขณะที่โรงแรมในประเทศ ควรเริ่มเตรียมวางแผน รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่คาดว่าจะสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ โดยไม่จำเป็นต้องกักตัว ในเดือนตุลาคมนี้

  • การท่องเที่ยวแบบกระทันหันและยืดหยุ่นจะยังคงเป็นที่นิยม แต่การวางแผนการเดินทางล่วงหน้าจะค่อย ๆกลับมาเช่นกัน

เทรนด์การจองที่พักแบบกระทันหัน ได้รับความนิยมในปีที่แล้ว และจะยังคงต่อเนื่องในปีนี้ อย่างการกระโดดขึ้นรถ แล้วขับออกไปท่องเที่ยว หรือการจองตั๋วเครื่องบินทริปสั้น ๆ เพื่อหลีกหนีความจำเจ

ข้อมูลจาก Changing Traveller Report  เผยให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยเกือบ 60% มองว่า ผลจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พวกเขาวางแผนการจองที่พักภายในประเทศ ล่วงหน้าเพียงไม่กี่วัน หรือไม่กี่สัปดาห์ ก่อนออกเดินทาง ซึ่งคาดว่า จะเป็นเทรนด์ที่นิยมต่อเนื่องในหมู่นักท่องเที่ยว

shutterstock 632401589 re

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น ในการการยกเลิก แก้ไขการจองที่พัก ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อความอุ่นใจ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่มีความรอบคอบ ในการวางแผนการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่วางแผนก่อนการออกเดินทาง ก็จะกลับมามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในปีนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากการมองสถานการณ์ ในทิศทางบวก และความต้องการกลับมาท่องเที่ยว ที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เริ่มมีการจองที่พักล่วงหน้า ในประเทศไทย เป็นเวลาหลายเดือนมากขึ้น

สัญญานดังกล่าวเริ่มเห็นได้จาก อัตราการจองที่พักช่วงคริสต์มาสของโรงแรมในไทย ที่แม้จะยังไม่สูงมาก แต่ก็มากพอที่จะนับเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งราคาที่พัก และแพ็คเกจที่คุ้มค่า รวมถึงความยืดหยุ่นในการจอง มีผลช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และส่งผลให้อัตราการจองที่พักล่วงหน้า เพิ่มสูงมากขึ้นเช่นกัน

  • นักท่องเที่ยวจะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ทำให้โรงแรมจะต้องพร้อมปรับตัวและเปลี่ยนแปลง

วิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจโรงแรมทั่วโลก ต้องปรับแนวทางการทำธุรกิจครั้งใหญ่ แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่การปรับพื้นที่ใช้งานของโรงแรม ให้เหมาะกับการทำงานแทน ไปจนถึงการสร้างกระแสรายได้จากช่องทางใหม่ อาทิ บริการจัดส่งอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แขกเริ่มมีความคาดหวังสูงขึ้นที่จะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้บริการ

ขณะที่ในปีนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยบางคน มีความสุขกับการได้ออกเดินทางท่องเที่ยว ในสถานที่ใหม่ ๆ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกมาก ที่คาดหวังจะได้รับการบริการที่ดีขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น ได้มีช่วงเวลาสำหรับถ่ายภาพอัพโหลดลงอินสตาแกรม รวมถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

shutterstock 1738537250 e1614701233906

ดังนั้นผู้ประกอบการโรงแรมชาวไทย มีเวลาที่จะสามารถเรียนรู้ และปรับตัวได้ ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ก่อนที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับเข้ามา

ในความเป็นจริงแล้ว แม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น แต่โรงแรมยังคงต้องรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยต่อไป วิกฤตนี้ แสดงให้เห็นถึงการยกระดับมาตรการด้านความสะอาด และสุขอนามัย ในหลาย ๆ พื้นที่ ซึ่งผู้เข้าพัก ก็คาดหวังที่จะได้รับมาตรฐานด้านความสะอาด ที่มีคุณภาพเช่นนี้ ในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป

  • ช่วงเวลาวันหยุดจะเป็นช่วงที่มีอัตราการจองห้องพักสูง

เนื่องจากนักท่องเที่ยวได้เริ่มวางแผนท่องเที่ยว ผู้ประกอบการโรงแรม อาจได้เห็นจำนวนแขกเข้าพัก เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีนี้อีกครั้ง หลังจากที่การท่องเที่ยวหยุดชะงักไปในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

เทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง นับเป็นตัวอย่างที่ดี โดยข้อมูลจาก World Hotel Index พบว่า อัตราการจองที่พักล่วงหน้าทั้งหมด ประมาณ 15% เป็นการจองที่พักโรงแรมในไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เมื่อเข้าใกล้เทศกาลมากยิ่งขึ้น

  • นักท่องเที่ยวจะลดจำนวนครั้งในการเดินทาง แต่พักระยะเวลานานขึ้น

ในที่สุดแล้ว เมื่อนักท่องเที่ยวสามารถกลับมาท่องเที่ยวได้อีกครั้ง แม้จะมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติมากมาย ที่ยังคงนิยมการท่องเที่ยวระยะสั้น และจองที่พักแบบกระทันหัน

แต่จะมีนักท่องเที่ยวอีกหลายกลุ่ม ที่จะกลับไปมองหาการท่องเที่ยว ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความหมายมากขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นวิถีท่องเที่ยวที่เป็นไปได้ยากในหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เที่ยวบ่อย แต่เป็นการเที่ยวระยะเวลาสั้นเท่านั้น

เมื่อมีการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน จะกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญ ของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงภาคธุรกิจ เราจะได้เห็นนักท่องเที่ยวมีความใส่ใจต่อส่วนรวมมากขึ้น เมื่อออกเดินทางท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ จะเลือกบินน้อยลง และพักระยะยาวมากขึ้น การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนไปพร้อม ๆ กับการทำงาน จะเป็นที่นิยมมากขึ้น ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เนื่องจากผู้คน ต้องการที่จะพักระยะเวลานานขึ้น เพื่อหนีจากห้องสี่เหลี่ยม และประชุมในสภาพแวดล้อม ที่มีวิวสวยงาม ไม่ใช่เพียงแค่หน้าจอสี่เหลี่ยม

นับเป็นเวลานานกว่า 14 เดือน ตั้งแต่ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรก รองจากประเทศจีน ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 และเป็นเวลากว่าหนึ่งปี ตั้งแต่การระบาดครั้งนี้ สร้างผลกระทบอย่างรุนแรง ให้กับธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม มีดัชนี้ที่บ่งชี้ถึงสัญญาณที่ดีขึ้น หากวัคซีนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นตัว สามารถดำเนินการได้ตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ย่อมมีความหวังที่จะได้เห็นทางรอด และวันฟื้นตัวโรงแรมในประเทศไทยในปี 2564 และปีต่อ ๆ ไปในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo