ระเบิดศึกรอบใหม่! “BTS” ยื่นฟ้อง คดีอาญาฯ “รฟม.” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ล้มประมูล “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” กลางอากาศ บริษัทได้รับความเสียหาย
รายงานข่าวเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้รับสัมปทานและเดินรถไฟฟ้า BTS ได้เดินทางไป ยื่นฟ้อง ผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 165 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 165 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่ง ซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ป้องกันหรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สืบเนื่องจากกรณีการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (PPP) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในส่วนงานโยธาฝั่งตะวันตกและเดินรถตลอดเส้นทาง ซึ่ง รฟม. และผู้เกี่ยวข้องได้เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือก หลังจากเอกชนได้ซื้อซองประมูลแล้ว โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ซึ่ง BTSC ได้ยื่นฟ้อง รฟม. และคณะกรรมการการคัดเลือกฯ ต่อศาลปกครองกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 และศาลได้วินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ รฟม. ระงับการใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกที่แก้ไขไว้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
แต่ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา รฟม. กลับทำการยกเลิกการประมูล ส่งผลให้ BTSC ผู้ยื่นซองข้อเสนอได้รับความเสียหาย จึงต้องนำคดีมาฟ้องร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในครั้งนี้
ทั้งนี้ ศาลได้รับเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 30/2564 และนัดฟังคำสั่งในชั้นตรวจฟ้องวันที่ 15 มีนาคม 2564
ย้อนอ่านแถลงการณ์ รฟม.
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีมติให้ยกเลิกการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดย รฟม. ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่อง การพิจารณาแนวทางดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีเนื้อหาดังนี้
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ได้พิจารณาแนวทางดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการฯ รวมถึงสถานะของการดำเนินงานในปัจจุบันและเห็นว่า
ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี ส่งผลให้ไม่สามารถคาดการณ์กรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนได้ ซึ่งหากปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยไป อาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้การคัดเลือกเอกชนเกิดความล่าช้า และอาจส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในภาพรวม
ดังนั้น คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36ฯ จึงมีมติโดยสรุปว่า ให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนสายสีส้มฯ ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 และการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนฯ ดังกล่าว และได้มอบหมายให้ รฟม. พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานคร ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็น
- ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และ สถานียกระดับ 7 สถานี)
- ส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)
ก่อนยกเลิกประมูล “รถไฟฟ้าสายสีส้ม”
รฟม. เปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเมื่อกลางปี 2563 ประกอบด้วยงานเดินรถตลอดสาย ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มูลค่ารวม 1.4 แสนล้านบาท
ต่อมาคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ปรับแก้เกณฑ์การให้คะแนนการประมูลกลางอากาศ จากเดิมจะตัดสินผู้ชนะด้วยข้อเสนอด้านราคา 100% ก็เปลี่ยนเป็นให้คะแนนแบบถ่วงน้ำหนัก ข้อเสนอด้านเทคนิค 30% และข้อเสนอด้านผลตอบแทน 70%
ในการประมูลครั้งนี้มีผู้ยื่นซอง 2 กลุ่มคือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR) ซึ่งนำโดยเครือบีทีเอส (BTS) โดย BTS มองว่าการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การให้คะแนนดังกล่าวไม่เป็นธรรม จึงฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางให้ รฟม. กลับมาใช้เกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มแบบเดิม ซึ่งศาลฯ ก็ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามที่ BTS ร้องขอ
ด้าน รฟม. ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและเลื่อนกระบวนการเปิดซองข้อเสนอออกไปก่อน เพื่อรอฟังคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด แต่ล่าสุดคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้มีมติยกเลิกการประมูลในปี 2563 เพื่อเริ่มเปิดประมูลใหม่ ด้วยเหตุผลว่ากระบวนการศาลใช้เวลาค่อนข้างนาน เกรงว่าจะกระทบต่อการดำเนินโครงการ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 23 ก.พ. ‘อนุทิน’ เป็นประธานเซ็นสัญญา BTS ขยายเส้นทาง ‘รถไฟฟ้าสายสีชมพู’
- ‘ศักดิ์สยาม’ย้อนเพื่อไทย! ถามเอื้อใคร ใครได้ประโยชน์ ยกเลิกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม
- ‘สามารถ’ บอกเลย! ไม่เคยคิดว่า เขาจะกล้าล้มประมูล ‘รถไฟฟ้าสายสีส้ม’