การบินไทยโครงสร้างใหม่ ประกาศโครงสร้างองค์กรบริษัทใหม่ ภายหลังวิกฤติการเงิน จนต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เผยโครงสร้างใหม่มี 8 สายงาน มีผล 1 พ.ค.นี้ พบแต่ละฝ่ายใหญ่โตไม่ต่างจากเดิม
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกคำสั่งประกาศบริษัท การบินไทย เรื่อง โครงสร้างองค์กร บริษัทการบินไทย ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทการบินไทย ประสบภาวะวิกฤติทางการเงินจนต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ คณะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท เห็นว่าเพื่อให้การฟื้นฟูกิจการสำเร็จลุล่วง จนบริษัทสามารถประกอบกิจการต่อไปจน กระทั่งกลับมามีสถานะมั่งคงเช่นเดิมนั้น บริษัทจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างและกลยุทธ์ทางธุรกิจหลายๆด้าน รวมถึงโครงสร้างองค์กรและสวัสดิการพนักงาน
การบินไทยโครงสร้างใหม่ มีผล 1 พ.ค.นี้
ที่ประชุมคณะผู้ทำงานแผนฟื้นฟูกิจการฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติอนุมัติกำหนดการให้ ประกาศโครงสร้างองค์กรใหม่ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อให้พนักงานปัจจุบันแสดงความจำนงในการเข้าทำงาน ตามโครงสร้างองค์กรใหม่ของบริษัท และให้ความยินยอมในการปรับเปลี่ยนสภาพการจ้างตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้โครงสร้างองค์กรใหม่ จะมีผลบังคับในวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ตามรายละเอียดแผนภูมิโครงสร้างองค์กรหลักและโครงสร้างแต่ละหน่วยงาน
ทั้งนี้ให้พนักงานยังคงปฎิบัติหน้าที่ และมีความรับผิดชอบตามตำแหน่งปัจจุบันจนกว่าบริษัจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
โดยรายละเอียดโครงสร้างองค์กรใหม่ฝ่ายต่างๆดังนี้
โครงสร้างใหม่ที่ยังไม่ต่างจากเดิม
ก่อนหน้านี้นายชาญศิลป์ ระบุหลังการประชุมคณะกรรมการประชาคมคน TG มีผู้ร่วมประชุม อาทิ ผู้แทนฝ่ายต่าง ๆ ของบริษัท ผู้แทนกองทุน ผู้แทนสมาคมสโมสรพนักงานการบินไทย ผู้แทนสหภาพฯ ต่าง ๆ และผู้แทนสหกรณ์ฯ ว่า ตามที่การบินไทย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น เพื่อให้การฟื้นฟูสำเร็จ บริษัทจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และกลยุทธ์ทางธุรกิจหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงานมากขึ้น นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และการบริหารจัดการต้นทุนให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
โดยบริษัทมีแนวคิดในการปรับโครงสร้างองค์กรโดยมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อการเติบโตด้านต่าง ๆ การเพิ่มขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบ การมีขอบเขตการบังคับบัญชาที่เหมาะสม (Scope of work and responsibility expansion) มีโครงสร้างองค์กรราบและกระชับขึ้น (Flatter structure with best-in-class span of control)
บริษัทได้จัดโครงสร้างองค์กรที่เป็นแบบรวมศูนย์สำหรับงานเกี่ยวกับการเงินบัญชี การบริหารงานบุคคล การจัดซื้อ เพื่อลดความซ้ำซ้อนของงานและเป็นการใช้ข้อมูลร่วมกัน ส่งผลให้โครงสร้างองค์กรมีความกระชับและมีขนาดเล็กลง แต่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น รวมทั้งลดจำนวนผู้บริหารลงจาก 740 อัตรา เหลือประมาณ 500 อัตรา อีกทั้งลดขั้นตอนการบังคับบัญชา จากเดิม 8 ระดับ เหลือ 5 ระดับ ได้แก่
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ระดับ 14 ประธานเจ้าหน้าที่ (Chief of) ระดับ 12-13 ผู้อำนวยการ (Director) และกรรมการผู้จัดการ (Managing Director) ระดับ 11-12 หัวหน้าฝ่าย (Head of) ระดับ 10 และหัวหน้ากลุ่มงาน (Team Lead) ระดับ 8-9 และแบ่งออกเป็น 8 สายงาน ได้แก่
8 ฝ่ายยังเหนียวแน่น
1. สายการพาณิชย์ 2. สายปฏิบัติการ 3. สายช่าง 4. สายการเงินและการบัญชี 5.สายทรัพยากรบุคคล 6.ฝ่ายดิจิทัล 7.ฝ่ายขับเคลื่อนองค์กร 8.หน่วยธุรกิจการบิน
ทั้งนี้ ภายในหน่วยงานดังกล่าว บริษัทได้เพิ่มหน่วยงานใหม่ 2 หน่วยงาน ได้แก่ ฝ่ายขับเคลื่อนองค์กร (Transformation) โดยจะทำหน้าที่ขับเคลื่อน ประสานเชื่อมโยงและรวบรวมความคิดริเริ่มที่มาจากพนักงาน (Bottom Up) เพื่อให้พนักงานมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กร
ขณะนี้มีโครงการริเริ่มแล้วกว่า 600 โครงการ หากดำเนินการตามแผนคาด จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท และฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร (Corporate Strategy & Development) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่วางแผน กำหนดทิศทางกลยุทธ์ในภาพรวม การสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ของบริษัท และการบริหารจัดการบริษัทในเครือ
ทั้งนี้บริษัทได้เปิดโครงการร่วมใจเสียสละเพื่อองค์กร (Mutual Separation Plan) ให้พนักงานสมัครใจเสียสละเข้าร่วมโครงการและลาออกจากบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 โครงการ ได้แก่
โครงการร่วมใจจากองค์กรแผน B (MSP B) เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการลาระยะยาว Leave With 20% Pay (LW 20) ที่พนักงานได้รับเงินเดือนร้อยละ 20 เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 – 30 เมษายน 2564 และโครงการร่วมใจจากองค์กรแผน C (MSP C)
โดยทั้งสองโครงการจะเปิดรับสมัคร แบ่งเป็น 4 Block ได้แก่ Block ที่ 1 รับสมัครตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2564 Block ที่ 2 รับสมัครตั้งแต่ 2 – 16 มีนาคม 2564 Block ที่ 3 รับสมัครตั้งแต่ 16 มีนาคม – 1 เมษายน 2564 Block ที่ 4 รับสมัครตั้งแต่ 1- 19 เมษายน 2564 พนักงานที่เข้าโครงการฯ จะได้รับเงินตอบแทนในอัตราเทียบเท่าค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน คำนวณจากค่าจ้างอัตราสุดท้ายของพนักงาน และยังมีเงินตอบแทนพิเศษเพิ่มเติม โดยพนักงานที่เข้า MSP B จะได้เงินตอบแทนพิเศษเพิ่มเติมเท่ากับเงินเดือน 4 เดือน
การบินไทยโครงสร้างใหม่
ส่วนพนักงานที่สมัครใจเข้าโครงการ MSP C จะได้เงินตอบแทนพิเศษเพิ่มเติม เท่ากับเงินเดือน 0.5 – 1 เดือน ตามอายุของพนักงาน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแบ่งจ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวเป็นระยะเวลา 12 งวด
โดย MSP B Block ที่ 1 เริ่มจ่ายงวดแรกในเดือนมิถุนายน 2564 และ Block ที่ 2 – 4 เริ่มจ่ายงวดแรกในเดือนถัดไปตามลำดับ ส่วน MSP C Block ที่ 1 เริ่มจ่ายงวดแรกในเดือนกันยายน 2564 และ Block ที่ 2 – 4 เริ่มจ่ายงวดแรกในเดือนถัดไปตามลำดับ
การทำงานในโครงสร้างองค์กรใหม่ บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการบริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง (Customer Centric) โดยนำระบบดิจิทัลมาขับเคลื่อนองค์กร (Digital Driven) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบประกอบการตัดสินใจในทางธุรกิจและสนับสนุนให้เกิดการทำงานข้ามสายงาน โดยพนักงานทุกคนมีทิศทางและเป้าหมายร่วมกัน (Cross-functional teams)
ภายใต้วิสัยทัศน์ขององค์กรที่กระตุ้นให้พนักงานแสดงความคิดเห็นด้วยวิธีการใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ (Accelerate Productivity and Innovation) เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างกำไร ควบคุมค่าใช้จ่าย ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ทั้งในธุรกิจการบินและธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน
บริษัทเชื่อมั่นว่าการปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีความพร้อมที่จะกลับมาให้บริการ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจนสามารถกลับมาเป็นผู้นำในตลาดอุตสาหกรรมการบินได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ลดขนาด ‘การบินไทย’ เขย่าโครงสร้างองค์กรใหม่ หั่นผู้บริหารเหลือ 500 คน
- เปิดแผนลับ! การบินไทยจัด 4 Block เลิกจ้างพนักงาน – ตะลึง! ทุก Block รับ ‘ตั๋วฟรี’ สูงสุดถึง 20 ใบ
- การบินไทยรื้อโครงสร้างองค์กรใหม่เหลือ 5 ระดับ – เลิกจ้างฝ่ายบริหาร 240 อัตรา!