Business

แอป ‘เป๋าตัง’ มีดีมากกว่ารับเงินเยียวยา เช็คสิทธิสวัสดิการสุขภาพฟรี ได้เพียบ!

แอป เป๋าตัง ชวนใช้สิทธิสวัสดิการสุขภาพฟรี ผ่าน “กระเป๋าสุขภาพ” ทั้ง ตรวจคัดกรองมะเร็ง ฉีดวัคซีนกว่า 16 บริการ จองฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย ชวนคนไทยเช็คสิทธิสุขภาพผ่าน “กระเป๋าสุขภาพ” หรือ Health Wallet บน แอป เป๋าตัง 24 ชั่วโมง หลังจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิด้านใดบ้าง ตามสวัสดิการภาครัฐ

แอป เป๋าตัง

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารร่วมกับ สปสช. เปิดให้ประชาชน จองสิทธิการเสริมสร้างสุขภาพ และป้องกันโรครวม 16 บริการ ผ่านกระเป๋าสุขภาพนั้น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เฉพาะหน่วยบริการในกรุงเทพฯ​ มีประชาชนจองสิทธิไปแล้วกว่า 150,000 สิทธิ

อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่ยังไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิรับสวัสดิการด้านใดบ้าง ตามระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของภาครัฐ ซึ่งมีทั้งสิทธิการตรวจ คัดกรองโรคมะเร็งต่าง ๆ และการฉีดวัคซีนป้องกันโรค

ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยทุกคนตรวจสอบสิทธิของตนเอง ซึ่งจะจำแนกตามกลุ่มอายุ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิตนเองได้ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง กดยอมรับเงื่อนไขการเปิดใช้งานและการเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคตามที่ สปสช. กำหนด หลังจากนั้นสามารถตรวจสอบสิทธิผ่านกระเป๋าสุขภาพ บนแอปฯ เป๋าตังได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และธนาคารกรุงไทย ร่วมเปิดโครงการจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล 2564 ผ่านกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป

บริการ Health Wallet ถือเป็นทางเลือกใหม่ของการเข้ารับบริการสุขภาพ ในกองทุนบัตรทอง ที่ง่ายขึ้น ตามรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดการแพร่กระจายโรคโดยเฉพาะ COVID-19

Health wallet 01

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการสนับสนุนยกระดับกองทุนบัตรทอง สู่หลักประกันสุขภาพแห่งชาติยุคใหม่ ที่เป็นนโยบายและความมุ่งมั่นของรัฐบาล ในการยกระดับบริการบัตรทองเป็น วีไอพี ด้วยการเพิ่มความสะดวกในการรับบริการให้กับประชาชน

นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในปี 2564 สปสช. ได้จัดเตรียมวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่จำนวน 6.4 ล้านโดส เพื่อบริการฉีดให้กับประชากรกลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่มเสี่ยง และสำหรับหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะ จำนวน 3.5 แสนโดส

ทั้งนี้ ได้เปิดให้กลุ่มเสี่ยง จองสิทธิและนัดหมายฉีดวัคซีนล่วงหน้า ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์- 31 มีนาคม 2564 เพื่อเข้ารับบริการฉีดวัคซีนในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2564 ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์สามารถขอลงทะเบียนและฉีดวัคซีนได้ตลอดทั้งปี

สำหรับการลงทะเบียนจองสิทธิฉีดวัคซีนมี 4 ช่องทางหลัก

  • สายด่วน สปสช. โทร. 1330 กด 1 หลังจากนั้นกด 8 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. (ทั่วประเทศ)
  • หน่วยบริการประจำหรือโรงพยาบาลในระบบบัตรทอง (ทั่วประเทศ)
  • Line @UCBKKสร้างสุข (เฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองหรือพักอาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร) ให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 08.30 – 18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น.
  • ลงทะเบียนจองสิทธิ และนัดฉีดวัคซีนเพิ่มเติม สำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ผ่านกระเป๋าสุขภาพ บนแอปฯเป๋าตัง

การลงทะเบียน ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวผ่านระบบ Hospital Portal เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นสวัสดิการที่รัฐมอบให้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิดจนถึงวัยผู้สูงอายุ โดยเป็นการขยายระบบบริการ Health Wallet ภายหลังจากที่มีการนำร่องระบบจองสิทธิฉีดวัคซีน ที่โรงพยาบาลศิริราช และได้รับการตอบรับด้วยดีในปีที่ผ่านมา

ประชากร 7 กลุ่มเสี่ยง ที่สามารถจองสิทธิ และนัดหมายฉีดวัคซีนล่วงหน้า ได้แก่

  • หญิงมีครรภ์
  • เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
  • ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน)
  • ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
  • ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
  • ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ป่วยโรคอ้วน มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

ในส่วนของธนาคารกรุงไทย ได้เตรียมความพร้อมของระบบไว้ เพื่อให้การจองสิทธิฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ผ่านกระเป๋าสุขภาพ มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยออกแบบระบบที่รองรับ Digital Journey อำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้รับบริการ ในการเช็คสิทธิ ทำการนัดหมาย ยืนยันตัวตนผู้มารับบริการ

พร้อมกันนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ผ่าน Online Dashboard ซึ่งแสดงผลแบบ interactive ประมวลผลแบบเรียลไทม์ ทำให้บริหารจัดการวัคซีนได้ทันที ผ่านช่องทางดิจิทัลเชื่อมโยงตั้งแต่ประชาชนผู้รับบริการ จนถึงหน่วยบริการ ตลอดจนพัฒนากระบวนการจองและฉีดวัคซีนฯ ให้แก่ประชาชน ที่โรงพยาบาลกว่า 1,600 แห่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จะมีบริการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลานัดหมาย โดยใช้ QR Health ID ยืนยันตัวตนแทนบัตรประชาชน รวมทั้งสามารถชำระค่าบริการส่วนเกินที่อยู่นอกเหนือสิทธิผ่าน Wallet ได้ทันที

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo