Business

ผู้ประกันตนมาตรา 33 รอเฮ ! นายกฯ เคาะแล้ว ‘ม. 33 เรารักกัน’ ช่วย 11 ล้านคน

จ่ายเงินผู้ประกันตนมาตรา 33 ด่วน! นายกฯ เคาะชื่อเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน “ม. 33  เรารักกัน” ช่วยเหลือ 11 ล้านคน เตรียมเสนอเข้า ครม. วันจันทร์หน้า

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมครม. ถึงมาตรการเยียวยาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และสำนักงบประมาณพิจารณาเรื่องนี้

ล่าสุด มีรายงานว่านายกรัฐมนตรี ได้เคาะชื่อเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน “ม. 33  เรารักกัน” ช่วยเหลือ 11 ล้านคน ตัดเกณฑ์เหลือเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วสุดในวันจันทร์หน้า

จ่ายเงินผู้ประกันตนมาตรา 33

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงาน กล่าวหลังเข้าร่วมหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าได้เสนอต่อที่ประชุมให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ได้รับเงินเยียวยาเช่นเดียวกับโครงการเราชนะ โดยลดเงื่อนไขเรื่องอัตราเงินเดือน เหลือเพียงเงื่อนไขผู้ที่มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท จะไม่ได้รับการเยียวยา

จ่ายเงินผู้ประกันตนมาตรา 33  ช่วย 11 ล้านคน

นายสุชาติ  กล่าวภายหลังเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ ว่า นายกรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือแรงงาน ผู้ประกันตนมาตรา 33 โครงการ “ม.33 เรารักกัน” โดยนายกรัฐมนตรี อยากให้ครบทุกคน ที่มีสิทธิดังกล่าว ส่วนเม็ดเงินจะได้คนละเท่าไหร่ และออกมาในรูปแบบไหนนั้น ต้องรอหารือในรายละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นรูปแบบจะเป็นเหมือนโครงการเราชนะ โดยนำเงินเข้าแอพพลิเคชั่นเป๋าตังค์ เพื่อช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย

“ยืนยันคนในครอบครัวมาตรา 33 จะให้ทุกคน ที่มีอยู่ประมาณ 11 ล้านกว่าคน สำหรับเงื่อนไขผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรีให้ความอนุเคราะห์ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ คือคงเหลือเงื่อนไขเดียวคือ คนที่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท จะไม่ได้รับสิทธิเพียงเงื่อนไขเดียว”

หลังจากนี้ตนจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกครั้งในวันนี้ โดยผ่านการใช้แอพฯเป๋าตังค์

ดังนั้นจึง คาดว่าจะมีผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ได้รับสิทธิ์เกือบทั้งหมด คิดว่าอย่างเร็วสุดจะสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม. ในสัปดาห์หน้า หรืออย่างช้าไม่เกินสัปดาห์ต่อไป ส่วนจะเป็นวงเงินที่ได้รับเยียวยาเท่าไหร่นั้นจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เงินในส่วนนี้เป็นการใช้เงินกู้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ลำบาก ดังนั้นคนมีเงินฝาก 5 แสนบาท แล้วก็อยากให้เห็นใจ เสียสละก็แล้วกัน ไม่อยากให้มีการมองว่า มีเงินฝาก 5 แสนหรือ 1 ล้านบาท แล้วทำไมมาเอาตรงนี้อีก จึงขอหลักเกณฑ์นี้ไว้หลักเกณฑ์เดียว ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังก็อยากได้เกณฑ์เหมือนโครงการเราชนะ แต่ตนขอนายกฯ ให้ใช้เกณฑ์เงินฝากไม่นำเรื่องเงินเดือนมาพิจารณา ส่วนเม็ดเงินนั้นก็เป็นการใช้เม็ดเงินกู้ก้อนเดียวกับโครงการเราชนะ ไม่ใช่เงินประกันสังคม

จ่ายเงินผู้ประกันตนมาตรา 33

รอลุ้นเยียวยา 3,500 -4,500 บาท

เมื่อถามว่า โครงการดังกล่าวจะมีวงเงินต่อคนจำนวนเท่าไหร่ นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องจำนวนเงินเดี๋ยวกลับไปทำตัวเลขอีกครั้ง แต่อยู่ประมาณ 3,500-4,500 บาท โดยจะเป็นการแบ่งจ่ายเป็นรายสัปดาห์ เช่นเดียวกับ“เราชนะ” โดยคาดว่าอาจให้ประมาณ 1,000 บาทต่อสัปดาห์ โดยคาดว่าโครงการจะเริ่มจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนได้ภายในเดือนมีนาคมนี้

สำหรับเรื่องเงินชดเชยมาตรา 33 จะได้ข้อสรุปภายในวันศุกร์นี้ โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เร็วสุดภายในสัปดาห์หน้า หากไม่ทันก็ถัดไปอีกสัปดาห์หนึ่ง แต่วันนี้ถือว่านายกรัฐมนตรี กดปุ่มอนุมัติทุกคนให้ทั้งหมด โดยขอเงินรัฐบาลมาช่วยในมาตรา 33  ประมาณ 40,000 ล้านบาท  หลังจากนี้จะมีการกดปุ่มเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ ส่วนคนที่มีแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์อยู่แล้ว ก็ต้องลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อยืนยันสิทธิ์เช่นเดียวกัน โดยย้ำว่า ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์จะต้องเข้าหลักเงื่อนไข 3 ข้อได้แก่ เป็นคนไทย มีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท และเป็นผู้ประกันตนในมาตรา 33  คาดว่าจะมีผู้รับสิทธิ์ที่เข้าเงื่อนไขนี้ประมาณ 9 ล้านคน

เร่งแก้ปัญหา เงินทุนชราภาพ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฝากไปพิจารณาเรื่องเงินทุนชราภาพ ให้แก้ปัญหาให้เร็วที่สุด  ทางออกมี 2 ทาง ในการแก้ปัญหาระยะยาวคือ การแก้พระราชบัญญัติ ส่วนการแก้ปัญหาระยะสั้นกำลังหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ตีความอยู่ ว่าจะสามารถนำเงินมาลงทุนกับผู้ประกันตนได้หรือไม่ อย่างเช่นการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกันตนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 2% ต่อปี

นายสุชาติ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนักร้อง นักดนตรี เรียกร้องให้ชดเชยเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นเงินสดว่า ตนเองก็เคยเป็นผู้ใช้แรงงานมา  บางครั้งมีเงินสดก็เอาไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องใช้เงินสด เช่นค่าเทอม ค่าเช่าบ้าน ส่วนการซื้อของกินของใช้ ก็ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์แทน ซึ่งต้องรู้จักบริหารจัดการ

เมื่อถามว่า จะเป็นการตีกรอบการใช้เงินหรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ตามหลักเศรษฐศาสตร์ การเอาเงินออกมาเป็นแสนล้าน สิ่งหนึ่งที่จะกลับเข้ามาจะเป็นการฟูขึ้นของเศรษฐกิจ จะทำให้เกิดการหมุนเวียนในภาพใหญ่และฟื้นตัวโดยเร็ว ขอให้เชื่อมั่น เพราะรมว.คลังได้คิดมาแล้ว ซึ่งย้ำว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีคิดเพื่อช่วยเหลือแรงงาน นี่คือเจตนารมณ์ กระทรวงแรงงานเป็นผู้ช่วยสนับสนุนข้อมูลในการตัดสินใจ การใช้จ่ายชดเชยเป็นเงินสดเป็นไปได้ลำบาก หากใช้ผิดประเภทก็จะทำให้เจตนารมณ์สูญเปล่า

 

ส่วนหลักเกณฑ์การรับสิทธิ์ “ม.33 เรารักกัน” จะเหมือนกับโครงการ “เราชนะ” โดยตัดเงื่อนไขเรื่องการมีรายได้ขั้นต่ำปีละ 3 แสนบาท ออกไป แต่มีคุณสมบัติดังนี้

หลักเกณฑ์การรับสิทธิ์

  • มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
  • มีเงินฝากในธนาคารไม่เกิน 500,000 บาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight